ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          SET INDEX วานนี้ยังคงความร้อนแรง นำโดยหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร และ ADVANC ที่ตอบรับเชิงบวกต่อผลการประมูลคลื่น 900MHz ขณะที่บรรยากาศการลงทุนรอบเอเชียและยุโรป เป็นกลาง ปิดสิ้นวัน SET INDEX บวก 11.45 จุด มาอยู่ที่ 1,424.12 จุด มูลค่าการซื้อขายแน่นแน่นขึ้นเป็น 44,961 ล้านบาท
          กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 อีก 438  ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 จำนวน 1,259 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 1,446 ล้านบาท 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          - ติดตามการประชุมครม.วันนี้ 
          - หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการปรับดัชนี MSCI จะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดวันนี้ จับตา EGCO / ROBINS
          - กระแสเงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดของไทยเป็นวันที่ 2 แต่ไม่หนาแน่น
          - เงินทุนต่างชาติซื้อสุทธิทุกตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่เป็นวันที่ 2

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 6)
         
SET INDEX ที่ขยับขึ้นเด่นในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา เป็นแรงผลักดันหลักของสถาบันภายในประเทศ และพอร์ตโบรกเกอร์เท่านั้น ต่างชาติซื้อสุทธิเพียงเล็กน้อย และหากวันนี้ต่างชาติจะซื้อสุทธิหนาแน่น ก็น่าจะเป็นผลจากการปรับดัชนี MSCI Thailand และ MSCI Global Small Cap เท่านั้น เราประเมินว่ากระแสเงินทุนต่างชาติเป็นเพียงการเลือกลงทุนเป็นรายหลักทรัพย์มากขึ้น 
 
ดังนั้น SET INDEX ที่ไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,430 จุดขึ้นไป เชิงกลยุทธ์การลงทุนเราแนะนำให้เริ่มทยอยขายทำกำไรมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มพลังงานที่ขยับขึ้นมาสะท้อนถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และประเด็นการเปิดประมูลโครงการปิโตรเลียมที่จะหมดอายุลง 2 โครงการ รวมถึงการประชุมโอเปกในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ เราคาดว่าจะไม่มีประเด็นเชิงบวกจากฝั่งของอิหร่าน อาจทำให้เกิดแรงขายทำกำไรมากขึ้นในปลายสัปดาห์
         
เรายังคงให้น้ำหนักกับกลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร / รับเหมาก่อสร้าง / วัสดุก่อสร้าง/ ค้าปลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 2 กลุ่มหลังที่ Underperformed ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 
วันนี้จับตากลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ต่อการเก็งกำไรการประชุมครม.วันนี้ อาจพิจารณาแผนการลงทุนโครงการรถไฟรางคู่เพิ่มเติม

Stock Pick of The Day          
          1. สะสม CK : ราคาปิด 25.00 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท
          a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากการประชุมครม.ในวันนี้อาจมีการพิจารณาแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ซึ่งเป็นในโครงการเร่งด่วนของ PPP Fast Track 
          b) คาดว่าเดือน มิ.ย.จะมีความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายส้ม – ชมพู – เหลือง อย่างน้อย 1 โครงการ หลังรองนายกฯสมคิดให้ความเห็นในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะส่งผลให้หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างกลับมา Outperform ตลาดได้ 
          c) Downside Risk จำกัด เนื่องจาก NAV ของการถือหุ้นใน 3 บริษัทลูก ได้แก่ BEM, TTW, CKP คิดเป็นมูลค่า 23.7 บาทต่อหุ้น เกือบเท่าราคาของ CK ณ ปัจจุบัน          
          2. เก็งกำไร S : ราคาปิด 5.20 บาท ราคาเหมาะสม 5.50  บาท (อิงเป้าหมายทางเทคนิค) 
          a) MSCI จะมีการปรับน้ำหนักดัชนีในวันนี้ และ S เป็น 1 ใน 3 หุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Small Cap จึงคาดว่าจะได้อานิสงค์บวกจากการปรับพอร์ตลงทุนของกองทุนต่างชาติที่ลงทุนโดยใช้ดัชนี MSCI เป็น Benchmark 
          b) หากพิจารณาหุ้นทั้ง 3 ตัวที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Small Cap ได้แก่ GL, DNA และ S เทียบกับราคาปิดวันที่ 12 พ.ค. จนถึงวานนี้ พบว่า หุ้น S ปรับตัวลง -5% ขณะที่ GL +14% และ DNA +25% 
          c) แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น บนประเด็นบวกของการปรับน้ำหนักดัชนี MSCI เป็นหลัก และมีเป้าหมายทางเทคนิคที่บริเวณ 5.50 บาท

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
          ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น US$607 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$399 ล้าน และซื้อสุทธิทุกตลาดเป็นวันที่ 2

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 2 
          นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 4 ชะลอตัวลงเหลือ 438 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 3,988 ล้านบาท และผลักดันให้ YTD ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 16,507 ล้านบาท
          ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 1,259 สัญญา รวม 4 วันทำการ Long สุทธิ 29,458 สัญญา คาดว่าจะเป็นการทยอยเปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง ทำให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 17,843 สัญญา และกดดันให้ S50M16 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้ง 0.71 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium เท่ากับ 2.07 จุด 
          และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 เพียง 1,446 ล้านบาท รวม 2 วันทำการ ซื้อสุทธิ 23,943 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 โดยพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 มากถึง 5.71bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเท่ากับ 2.11bps ปิดที่ 2.163%  

Short-Selling วานนี้ 
ลดลงอีก เหลือ 722 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 736 ล้านบาท NVDR Movement

NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 ยังคงเน้น กลุ่มพลังงาน และกลับมาสะสม ICT เด่น
         
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 อีก 1,598 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 2,079 ล้านบาท รวม 11 วันทำการซื้อสุทธิ 10,476 ล้านบาท โดยยังคงเลือกเน้นสะสมกลุ่มพลังงานเด่น แต่เริ่มสะสมกลุ่ม ICT อีกครั้ง

โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 31 พ.ค. 2559
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 31 พ.ค. 2559 เวลา : 10:13:00

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 8:51 am