กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนอย่าเรียกใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายแดง แท็กซี่สิ้นอายุการใช้งานเพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจการขนส่งทางบกตรวจสอบรถแท็กซี่ผิดกฎหมายทุกประเภท รวมถึงรถแท็กซี่ป้ายเหลืองต้องรักษามาตรฐาน หากพบการให้บริการฝ่าฝืนกฎหมาย เอาเปรียบผู้โดยสาร ลงโทษหนักทุกกรณี
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้ประกอบการขนส่งและบุคคลบางกลุ่มนำรถแท็กซี่ป้ายแดงและรถแท็กซี่สิ้นอายุการให้งานแล้วมารับจ้างรับ-ส่งผู้โดยสาร ทำให้เกิดปัญหาการร้องเรียนถึงคุณภาพการให้บริการที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เนื่องจากรถทั้งสองประเภทไม่ได้รับการตรวจสภาพรถตามกำหนด นอกจากนี้ ผู้ขับรถบางรายยังฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร เช่น เรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ทางราชการกำหนด ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและภาพลักษณ์ของประเทศ
ดังนั้น เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้โดยสารและเพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ กรมการขนส่งทางบกจะเข้มงวดตรวจสอบรถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นการกระทำความผิดจะดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุด สำหรับกรณีใช้รถแท็กซี่ป้ายแดงรับส่งผู้โดยสาร มีความผิดตามมาตรา 6 (1) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ใช้รถไม่จดทะเบียน มีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท และกรณีใช้รถแท็กซี่สิ้นอายุการใช้งานรับส่งผู้โดยสารมีความผิดตามมาตรา 5 (10) แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท รวมถึงเข้มงวดตรวจสอบการให้บริการของรถแท็กซี่ป้ายเหลืองตามมาตรการกวดขันแท็กซี่ที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยและการท่องเที่ยว เช่น การปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร ไม่ส่งผู้โดยสารตามสถานที่ที่ได้ตกลงไว้ ไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร และเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารเกินที่ทางราชการกำหนด ลงโทษในอัตราโทษสูงสุดทุกกรณีเช่นกัน หากพบพฤติกรรมผิดซ้ำซากในข้อหาความผิดเดิม พิจารณาพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที ในส่วนกรณีความผิดทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวร้ายแรง เช่น พฤติกรรมลามกอนาจาร ส่งตัวดำเนินคดีและเพิกถอนใบอนุญาตทันที
.jpg)
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีจำนวนรถแท็กซี่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร รวม 122,462 คัน ในจำนวนนี้เป็นรถที่ครบอายุการใช้งานแล้ว จำนวน 10,564 คัน ซึ่งแท็กซี่ทุกคันเมื่อครบกำหนดอายุการใช้งานแล้ว (หมดอายุแท็กซี่) ยังสามารถใช้รถต่อได้ตามปกติ โดยต้องดำเนินการแจ้งเปลี่ยนประเภทจดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไม่สามารถนำไปรับส่งผู้โดยสารได้ และต้องเปลี่ยนป้ายทะเบียนและถอดอุปกรณ์ติดตั้งที่แสดงว่าเป็นรถแท็กซี่ออกทั้งหมด หากรถแท็กซี่ที่ดำเนินการเปลี่ยนประเภทรถยนต์แล้ว นำรถมาวิ่ง-รับส่งผู้โดยสารจะมีความผิดตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ข้อแนะนำสำหรับผู้โดยสารในการสังเกตว่ารถแท็กซี่ที่ใช้บริการเป็นรถแท็กซี่ถูกต้องหรือไม่นั้น ป้ายทะเบียนรถต้องเป็นพื้นสีเหลืองและตัวอักษรสีดำ หากเป็นรถแท็กซี่ของบุคคลธรรมดาตัวรถมีสีเขียวและสีเหลือง ต้องมีข้อความแท็กซี่บุคคล หรือชื่อนิติบุคคล หมายเลขทะเบียนรถ และข้อความร้องเรียนแท็กซี่ โทร.1584 ที่ประตูหน้าด้านนอกทั้งสองข้าง มีตัวอักษร TAXI-METER ภายในกรอบติดในแนวนอนบนหลังคารถและมีแสงไฟให้เห็นเครื่องหมายได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ต้องมีและใช้มาตรค่าโดยสารตามแบบหรือชนิดที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก มีกรอบสำหรับติดบัตรประจำตัวผู้ขับรถไว้ด้านหน้ารถที่ผู้โดยสารสามารถมองเห็นได้ชัดเจนต้องมีหมายเลขทะเบียน พื้นสีเหลือง ตัวอักษรสีดำ ทำด้วยโลหะติดไว้ที่แนวกึ่งกลางประตูรถตอนหลังด้านในใต้ขอบกระจกทั้งสองข้างกรณีที่ผู้โดยสารพบเห็นรถแท็กซี่ไม่ตรงตามลักษณะดังกล่าว ให้สันนิษฐานว่าเป็นรถแท็กซี่ที่หมดอายุ การใช้งานแนะนำผู้โดยสารให้หลีกเลี่ยงการใช้บริการรถคันดังกล่าว และแจ้งข้อมูลมายังศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารสาธารณะและรับเรื่องร้องเรียน โทร.1584 หากพบการกระทำความผิดตามที่มีการร้องเรียนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
ข่าวเด่น