ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
         
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านมา ยังคงขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,420 จุด ผลักด้วยกลุ่มพลังงาน / ICT / ธนาคาร อีกทั้งบรรยากาศตลาดเอเชียและยุโรป เกิดการฟื้นตัวจากโพล Brexit ที่มีสัดส่วนลดลง ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวก 10.13 จุด มาอยู่ที่ 1,421.32 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42,394 ล้านบาท
         
ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 700 ล้านบาท กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ มากถึง 13,453 ล้านบาท แต่คงการ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 4 อีก 2,026 สัญญา 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดฟื้นตัว 3.8% มาอยู่ที่ US$47.98/barrel  
          โพลล่าสุด Brexit ลดลงจาก 46% เป็น 42% ส่วน Bremain ขยับขึ้นเป็น 45% และยังไม่ตัดสินใจคงที่ที่ 13%
          คาดเงินทุนต่างชาติชะลอตัวในช่วงนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนของ Brexit ในปลายสัปดาห์นี้

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 19)
         
ความผันผวนของตัวแทนตลาดหุ้นโลก อย่าง S&P500 ผ่าน VIX Index ยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุดปิดที่ 19.41 จุด สะท้อนความกังวลต่อกรณี Brexit ยังกดดันจิตวิทยาการลงทุนนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย ที่เรามองว่าสัปดาห์นี้จะมีความผันผวน ขึ้นอยู่กับผลโพลของอังกฤษต่อ Brexit เป็นสำคัญ หาก SET INDEX ปรับฐานแรงในช่วง 2-3 วันนี้ จะเปิดโอกาสที่จะมีแรงเก็งกำไรในช่วงปลายสัปดาห์นี้เช่นกัน 
         
เมื่อภาพตลาดขาดความชัดเจน เราคาดว่าหุ้นหลักจะแกว่งแคบ กลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ขณะที่กลุ่มธนาคารเชื่อว่าจะเป็นเป้าหมายของการสะสมของสถาบันภายในประเทศ หลังปรับฐานลงแรงตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ SET INDEX ในช่วงนี้ คาดว่าจะยังยืนเหนือ 1,410 จุดได้ และไปวัดว่าจะหลุดแนว 1,400-1,410 จุดหรือไม่ในช่วงปลายสัปดาห์นี้  
         
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนช่วง 2-3 วันนี้ เราแนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรแบบจำกัดวงเงินในหุ้นที่มีประเด็นเชิงบวกเฉพาะตัว ส่วนหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร อาจเข้าซื้อเมื่ออ่อนตัว เพื่อเก็งกำไรต่อผลการดำเนินงานใน 2Q59 ที่สัปดาห์หน้าจะเข้าสู่เทศกาลการประมาณการเราประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,415-1,435 จุด มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา หลัง Brexit Poll สัดส่วนต้องการอยู่กับอียูสูงกว่า Brexit

Stock Pick of The Day          
          1. สะสม BANPU : ราคาปิด 12.90 บาท ราคาเหมาะสม 14.20 บาท
          a) MBKET เชื่อว่าราคาถ่านหินในตลาดโลกได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วและจะค่อยๆฟื้นตัวในปี 2559 จากการเกิด Restocking และ Supply ถ่านหินในจีนลดลง จากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมส่งผลให้เหมืองถ่านหินที่ประสิทธิภาพในการผลิตต่ำลดกำลังการผลิตลง 
          b) คาดกำไรสุทธิ 2Q59 มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวก แม้ว่าธุรกิจถ่านหินจะทรงตัว qoq แต่รายได้จากโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 เฟสคาดว่าจะปรับตัวขึ้น qoq และช่วยหนุนผลประกอบการให้พลิกกลับจากขาดทุน 183 ล้านบาทใน 1Q59
          c) Downside Risk จำกัด เนื่องจากซื้อขายเพียง 0.8 เท่าของมูลค่าทางบัญชี และ Catalyst ในระยะกลาง คือการนำ Banpu Power เข้าจดทะเบียน IPO จะเป็นการปลดล็อก Asset Value และเป็นบวกโดยตรงต่อ Market Cap ของ BANPU            
          2. เก็งกำไร BBL : ราคาปิด 158.00 บาท ราคาเหมาะสม 178.00 บาท
          a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวเด่นในวันนี้ จากเม็ดเงินต่างชาติที่ไหลกลับเข้าสู่หุ้นกลุ่มหลัก จากการเกิด Short Covering ตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากโพลประชามติล่าสุดของ UK พบว่าน้ำหนักเริ่มเทกลับมาทางอยู่ต่อใน EU ที่ 45% ออกจาก EU 42% และยังไม่ตัดสินใจ 13% 
          b) BBL ปรับตัวลง -3.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มากกว่าการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ลดลง -2.3% และ SET INDEX -0.5% 
          c) Valuation ถูก ซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.78 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 1.08 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.8% 

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
          กลับมาซื้อสุทธิ US$283 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$313 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
          ต่างชาติกลับมาซื้อตลาดตราสารหนี้หนาแน่นอีกครั้ง
          นักลงทุนต่างชาติ กลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง 700 ล้านบาท อาจเป็นผลจากการปรับดัชนี FTSE  และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 27,909 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 4 อีก 2,026 สัญญา รวม 4 วันทำการ Short สุทธิ 17,020 สัญญา คาดว่าเป็นการปิดสถานะ Long ต่อเนื่อง และทำให้ S50M16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันแรกในรอบ 6 วันทำการ 1.71 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium เท่ากับ 0.59 จุด กดดันให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิลดลงต่อเนื่อง เหลื 19,726 สัญญา  
ขณะที่นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ มากถึง 13,453 ล้านบาท เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้าขายสุทธิ 5,710 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 อีก 0.32bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.34bps ปิดที่ 2.142% 

Short-Selling วานนี้ 
          ลดลงเหลือ 911 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,314 ล้านบาท           

NVDR Movement
          NVDR กลับมาซื้อสุทธิ เน้นสะสม SCB เด่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกลุ่มค้าปลีกต่อเนื่อง          
          การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 978 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิเพียง 116 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR กลับมาสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารเด่น อาจเป็นการ Covered short ไปในช่วงก่อนหน้า ขณะที่กลุ่มค้าปลีกยังคงเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจาก NVDR ต่อเนื่อง

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา

          ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
          ยอดก่อสร้างบ้านใหม่ เดือนพ.ค. เท่ากับ 1.164 ล้านหลัง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 1.150 ล้านหลัง แต่ลดลง 0.3% mom โดยยอดก่อสร้างบ้านเดี่ยวในเขตกลาง เพิ่มขึ้น 0.3% mom 
          ส่วนยอดอนุมัติการก่อสร้างบ้านเดือนพ.ค. เท่ากับ 1.138 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดเล็กน้อยที่ 1.140 ล้านหลัง แต่เพิ่มขึ้น 0.7% mom 

ยุโรป
          ไม่มี

จีน          
          ราคาบ้านใน 70 เมืองหลักของจีน ขยับขึ้นในจำนวนที่น้อยลง: ราคาบ้านใหม่ที่ไม่รวมบ้าน Affordable homes เพิ่มขึ้น 60 จาก 70 เมือง ลดลงจากเดือนเม.ย.ที่ 65 เมือง ส่วนราคาบ้านที่ลดลงมีจำนวน 4 เมือง ลดลงจากเดือนเม.ย.ที่มี 5 เมือง และไม่เปลี่ยนแปลง 6 เมือง 

เอเชียแปซิฟิก
         
อินเดียขึ้นภาษีส่งออกน้ำตาล: เป็น 20% เพื่อป้องกันการขึ้นราคาน้ำตาลภายในประเทศ หลังแนวโน้มปริมาณน้ำตาลจะเพียงพอการบริโภคภายในประเทศ เมื่อปริมาณอ้อยเข้าสู่ระบบการผลิตน้อย ทำให้ผลผลิตน้ำตาลออกมาทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี จากภาวะภัยแล้ง 
         
ประธานธนาคารกลางอินเดียยืนยันไม่รับตำแหน่งต่อหลังหมดวาระ: นาย Rajan กล่าวถึงตำแหน่งประธานธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งจะหมดวาระในวันที่ 4 ก.ย. จะไม่ขอรับตำแหน่งต่อ แม้ว่าจะยังไม่งานของธนาคารกลางที่ต้องทำต่อเนื่อง ทั้งการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และการเข้าไปพัฒนาคุณภาพสินทรัพย์ในสถาบันการเงิน
         
ส่งออกญี่ปุ่นหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8: ลดลง 11.3% yoy สำหรับเดือน พ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ -10.1% yoy และแย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาด -10.0% yoy ทั้งนี้การส่งออกไปยังจีน, สหรัฐฯและยุโรปหดตัว ด้านการนำเข้าลดลง 13.8% yoy ทำให้ดุลการค้าเกินดุลอยู่ที่ระดับ 2.70 แสนล้านเยน

ไทย
          ไม่มี



โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 20 มิ.ย. 2559



 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 มิ.ย. 2559 เวลา : 10:16:39

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 10:19 am