ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
หยิบเงินหยิบทอง - บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง


 


ตลาดหุ้นไทยวานนี้
         
SET INDEX วานนี้ ขยับขึ้นทดสอบด่าน 1,450 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มพลังงาน / รับเหมาก่อสร้าง/ อสังหาฯ อีกทั้งบรรยากาศรอบเอเชียและยุโรปเอื้อต่อเก็งกำไร ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกอีก 5.24 จุด มาอยู่ที่ 1,442.66 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 62,744 ล้านบาท
เงินทุนต่างชาติยังคงน่าสนใจ แม้ขายสุทธิตลาดหุ้นไทยแต่ก็เพียง 295 ล้านบาท แต่คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 มากถึง 17,765 ล้านบาท และ Long สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 11,649 สัญญา 

ปัจจัยสำคัญวันนี้
          ติดตามภาวะเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ของธปท.วันนี้

ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
          ติดตามการประมาณการ 2Q59 ของกลุ่มธนาคารที่จะทยอยออกมามากขึ้น
          ติดตามรายงานการประชุมเฟด วันที่ 14-15 มิ.ย. ต่อมุมมองด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการจ้างงาน
          ติดตามการประชุมครม. ทุกวันอังคาร อาจมีการพิจารณาแผนการลงทุนขนาดใหญ่
          การขายซองประมูลงาน 6 สัญญาในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงลบ (วันแรกในรอบ 26 วัน)
         
เรายังคงยืนยันว่า SET INDEX ที่แนว 1,450 จุด ยังไม่น่าผ่านได้ในรอบสั้นนี้ แม้ว่าบรรยากาศทั้งในและต่างประเทศค่อนข้างเอื้อต่อการเทรดดิ้งบนโมเมนตัมก็ตาม ความกังวลต่อกรณี Brexit คลายตัวลง แต่ปัจจัยที่สนับสนุน SET INDEX ในสัปดาห์นี้คือ Window Dressing จะสิ้นสุดลงในวันนี้ อีกทั้ง Valuation ของ SET INDEX ณ ระดับปิดวานนี้ซื้อขาย PER16 สูงถึง 15.56x สูงกว่าค่าเฉลี่ย 1Yr Forward PER +1SD ย้อนหลัง 5 ปีที่ 15.33x รวมถึงสัญญาณทางเทคนิก
         
การเทรดดิ้งบนโมเมนตัม อาจทำให้ SET INDEX ทะลุ 1,450 จุดได้ แต่ Risk&Reward ไม่สมดุล เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.ค.ที่จะประกาศในวันนี้ รวมถึงแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q59 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่ง KBANK คาดกำไรสุทธิ 1.03 หมืนล้านบาท เติบโต 7% qoq นักวิเคราะห์ในตลาดอาจยังไม่ปรับประมาณการขึ้น อีกทั้งตลาดหุ้นไทยติดวันหยุดยาวในวันพรุ่งนี้ 
         
ปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้นักลงทุนติดตามพัฒนาการกรณี Brexit ต่อเนื่อง เพราะจะมีผลต่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่จะไหลเข้าเอเชียและไทย 
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้นักลงทุน Wait&See หากจะเลือกเก็งกำไรรอบสั้น กลับมาเน้นหุ้นที่ Valuation ต่ำ แต่เงินปันผลสูง เป็นทางเลือก

Strategy of the Day          
          1.          สะสม CK : ราคาปิด 29.25 บาท ราคาเหมาะสม 34.00 บาท
          a)          MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเป็นกลุ่ม Domestic Play จึงได้รับผลกระทบจำกัดจากกรณี BREXIT 
          b)          มีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน ก.ค. คือ การขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม จำนวน 6 สัญญา มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า CK จะเป็น 1 ในตัวเต็งที่ได้งานอย่างน้อย 1 สัญญา เนื่องจากเป็นบริษัทรับเหมาขนาดใหญ่และมีความเชี่ยวชาญงานรถไฟฟ้า
          c)          ราคาหุ้น  Laggard โดย YTD ปรับตัวขึ้น +1% เทียบกับ SET INDEX +12.1% และเชื่อว่าราคาหุ้นควรจะขยับขึ้นตามบริษัทลูกที่ Outperform ไปก่อนหน้า ได้แก่ CKP +48%, BEM +31% ส่งผลให้ NAV จากการถือหุ้นใน CKP, BEM, TTW คิดเป็นมูลค่า 27.00 บาทต่อหุ้น CK            
          2.          เก็งกำไร IRPC : ราคาปิด 4.78 บาท ราคาเหมาะสม 5.30 บาท
          a)          MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาดในวันนี้ จากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับตัวขึ้น +4% dod เมื่อคืนนี้ และเพิ่มขึ้น 2 วันรวมกันถึง +7% หลังเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง เนื่องจากประเด็น BREXIT เริ่มคลายตัว  
          b)           คาดกำไรสุทธิ 2Q59 ทรงตัวในระดับสูง qoq ที่ 3 พันล้านบาท และกำไรปกติจะเร่งตัวขึ้นใน 2H59 เนื่องจากโครงการ UHV จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นไป และส่งผลให้ GIM เพิ่มขึ้นได้อีกอย่างน้อย US$1.00/barrel 
          c)          Valuation ยังถูก ซื้อขายระดับ PER2559 เพียง 8.5 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5.8%

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ US$323 ล้าน จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ US$185 ล้าน 

Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติหนาแน่น 
          นักลงทุนต่างชาติ กลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง แต่ก็เพียง 295 ล้านบาทเท่านั้น กดดันต่อ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิลดลงเพียงเล็กน้อยเป็น 29,638 ล้านบาท
          ขณะที่ SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ มากถึง 11,649 สัญญา จาก 4 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 16,721 สัญญา เราคาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง เพราะ S50M16 หมดอายุในวันที่ 29 มิ.ย. กดดัน S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงอีก เป็น 7.79 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 8.45 จุด ส่งผลให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิขยับขึ้นเป็น 19,553 สัญญา  
          และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ในระดับที่หนาแน่น 17,765 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 35,792 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยเริ่มทรงตัวเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.85bps จากวันก่อนหน้าลดลง 5.85bps ปิดที่ 1.978%

Short-Selling วานนี้ 
ลดลงเป็นวันที่ 3 เป็น 743 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 950 ล้านบาท           

NVDR Movement
NVDR กลับมาขายสุทธิอีกครั้ง เน้นกลุ่มอาหารและขนส่ง   
          การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาขายสุทธิ 896 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 1,270 ล้านบาท โดยเป็นการปรับน้ำหนักในกลุ่มอาหาร และขนส่งที่ขึ้นมาเด่นในช่วงก่อนหน้า 

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ – การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
         
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
          - รายได้ส่วนบุคคล เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.2% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด +0.3% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.5% mom 
          - การใช้จ่ายส่วนบุคคล เดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% mom เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.1% mom
          - ยอดขายบ้านรอปิดการขาย เดือนพ.ค. หดตัว 3.7% mom แย่กว่า Bloomberg consensus คาด -1.0% mom และสวนทางกับเดือนก่อนหน้า +3.9% mom 
          ตลาดคาดว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วสุดปี 2561: นักค้าเงินต่างคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายใน 2-3 เดือนข้างหน้านี้ มากกว่าจะเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย พร้อมโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 50% จะเป็นในช่วงต้นปี 2561 และยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบเต็มรูปแบบ จนกว่าจะถึง 4Q61 
 
 
เฟดให้ 3 ธนาคารทำแผนปรับโครงสร้างทุนเพิ่มเติม: โดยให้ Deutsche Bank Trust และ Santander ส่งแผนการเพิ่มทุน ซึ่งเท่ากับว่าธนาคารจะไม่สามารถจ่ายเงินปันผล หรือซื้อหุ้นคืน จนกว่า 2 ธนาคารจะเสนอแผนต่อเฟด นอกจากนี้ เฟด ยังได้สั่งให้ Morgan Stanley ส่งแผนการปรับโครงสร้างทุนใหม่ภายใน 4Q59 แต่เฟดยังไม่ได้ปฎิเสธแผนเดิมที่เสนอมาเช่นกัน ภายหลังธนาคารขนาดใหญ่ 33 แห่งส่งผลการทดสอบ Stress Test เพื่อดูว่าฐานทุนของสถาบันการเงินขนาดใหญ่มีฐานทุนที่ใหญ่มากพอรองรับภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจได้หรือไม่ ซึ่ง 30 สถาบันการเงินผ่านการทดสอบดังกล่าว

ยุโรป
          อัพเดทสถานการณ์ หลังผลประชามติของอังกฤษออกมาเป็น Brexit
          - ผู้นำอียู ยืนยัน อังกฤษไม่สามารถย้อนกลับมาเป็นสมาชิกภาพในกลุ่มอียู หลังนายกฯ อังกฤษออกมาแสดงความเสียใจกับผลของการประชามติ Brexit โดยนายกฯ เยอรมัน ยืนยันไม่มีเวลาสำหรับการคิดแต่อังกฤษต้องเดินหน้ารับความเป็นจริง 
          - อังกฤษเลื่อนการขายหุ้นธนาคาร Green Investment Bank Plc ไปอีก 2 เดือน หลังผู้ซื้อต้องการเวลาในการหากแหล่งเงินทุน 4.0 พันล้านปอร์ด โดยกำหนดเขตต้นเดือนก.ย. จากเดิม 27 ก.ค. 
          - ผู้นำอียู เรียกร้องให้อังกฤษเดินหน้าในการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกภาพในกลุ่มอียู พร้อมไม่ให้อังกฤษ เข้าร่วมการประชุม เพื่อลดความผันผวนให้จำกัดลง หลังการเมืองในอังกฤษเริ่มมีความเสี่ยง 

จีน          
          ไม่มี

เอเชียแปซิฟิก
         
กองทุน Hedge Fund ญี่ปุ่นเตรียมลงทุนใน Asia: Sparx Group เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ซึ่งมีเงินลงทุนในต่างประเทศ US$9.3 พันล้าน เห็นโอกาสของการเข้าลงทุนในตลาดอาเซียน หลังเกิดปัจจัยเสี่ยง Brexit เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจเอเชียจะเป็นไปตามที่ประมาณการไว้ กองทุนเตรียมใช้เงินสดของกองทุนบริษัท และระดมทุนใหม่จากนักลงทุน เข้าลงทุนในภูมิภาคนี้ 
          ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นหดตัวสวนทางคาด: ลดลง 0.1% yoy สำหรับเดือน พ.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ลดลง 3.3% yoy ขณะที่ Bloomberg Consensus คาด ขยายตัว 1.9% yoy นอกจากนี้ยังเป็นการหดตัว 2.3% mom ค่าเงินเยนที่มีทิศทางแข็งค่าขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงกดดันผลผลิตมีทิศทางอ่อนแอ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีทิศทางเดียวกับยอดค้าปลีกและส่งออกที่มีทิศทางหดตัว

ไทย
         
ยันเศรษฐกิจไทยเดือนพ.ค.ผงกหัว การบริโภคภาคเอชนฟื้น: สศค. เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาค เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา มีสัญญาณฟื้นตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้และภาคเหนือ โดยมีสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากการบริโภค โดยเฉพาะสินค้าคงทนที่ขยายตัวได้ดีตามรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวได้ดีทุกภูมิภาค รวมทั้งการลงทุนของภาครัฐที่ขยายตัวดีเป็นปัจจัยหนุนสำคัญ ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวแม้จะชะลอลงแต่ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจใน 2Q59 จะขยายตัวดีขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา โดย สศค. จะมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจปีนี้ใหม่ในเดือน ก.ค.

 
โดย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประจำวันที่ 30 มิ.ย. 2559




 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 มิ.ย. 2559 เวลา : 10:34:58

16-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 16, 2024, 10:02 pm