ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กสม.ประณามผู้ก่อเหตุระเบิดไร้มนุษยธรรม เรียกร้องรัฐจับคนผิดลงโทษ


 


คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุระเบิดในย่านเศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงบริเวณย่านเศรษฐกิจและสถานที่ท่องเที่ยวหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ในเวลากลางวันต่อเนื่องในเวลากลางคืนเป็นต้นมา ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 44 ราย โดยผู้ก่อความไม่สงบใช้วัตถุระเบิด รวมถึงการลอบวางเพลิงในยามวิกาล ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงสูงสุด ซึ่ง กสม ขอประณามการกระทำของผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรง ที่โหดร้ายทารุณไร้มนุษยธรรม ละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรม ซึ่งเป็นหลักสากลที่ทุกฝ่ายต้องยึดถือ และขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียและญาติมิตรในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน และทำลายความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจของไทย และหากเหตุการณ์เหล่านี้ยังดำเนินต่อไป คาดว่าจะขยายพื้นที่ความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
          
กสม.ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนคำนึงและควรปฏิบัติ
         
1. ผู้ที่ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ต้องยุติการกระทำที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดในการจูงใจในการก่อเหตุ เพราะการกระทำดังกล่าวนอกจากจะละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว ยังเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อหลักมนุษยธรรมอีกด้วย
         
2. ขอสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่พยายามระงับยับยั้งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นการละเมิดหลักนิติธรรม ทั้งไม่เป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากล ซึ่งเป็นที่ยอมรับและขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน และจับกุม ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม
         
3. ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชน ประชาชน สมาชิกสื่อสังคม ยุติการเผยแพร่ภาพศพผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บในลักษณะต่างๆ ทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อออนไลน์ เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดตามกฎหมาย และยังเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อีกด้วย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเคารพต่อสิทธิของผู้เสียชีวิตเป็นประการสำคัญ อีกทั้งตั้งอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ และเห็นใจครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิต อันเป็นการเคารพ สิทธิมนุษยชน พึงจะต้องยึดมั่นเป็นประการสำคัญในสังคม โดยกสม.จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเป็นที่คาดหวังว่าทุกภาคส่วนจะช่วยกันดำเนินมาตรการในอันที่จะใช้แนวทางสันติวิธีเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน และต้องช่วยกันสอดส่อง ระงับ ยับยั้ง แก้ไข และระมัดระวังถึงภยันตรายทั้งปวงที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน เพื่อจะนำมาซึ่งความสงบสุขของประเทศต่อไป
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ส.ค. 2559 เวลา : 16:43:33

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 12:56 am