ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ครม.อนุมัติหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนสาธารณสุข


 


คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนกระทรวงสาธารณสุข (ฉ. 11, 12) มีหลักเกณฑ์สำคัญคือ หลักเกณฑ์พื้นที่ 6 ระดับ อายุราชการ 3 ช่วงอายุ เพิ่มกลุ่มสายงานส่งเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพและคุ้มครองผู้บริโภค  และช่องว่างค่าตอบแทนระหว่างวิชาชีพลดลง แต่ยังคงส่วนที่ต่างคือ ค่าวิชาชีพและส่วนต่างเงินเดือนภาครัฐและเอกชน 
 

ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าในวันนี้ (23 สิงหาคม 2559) คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการเบิกจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการของกระทรวงสาธารณสุข (ฉ. 11, 12) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ โดยควรปรับปรุงเรื่องความเป็นธรรมและความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และลดการลาออกของบุคลากรในโรงพยาบาล หรือหน่วยบริการที่มีการลาออกของบุคลากรมาก โดยเป็นที่ยอมรับของบุคลากรทุกวิชาชีพ และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการพิจารณาทบทวนระบบการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในภาครัฐ
 

โดยในการจ่ายค่าตอบแทนมีหลักเกณฑ์สำคัญ 4 ประเด็นคือ 1.ใช้หลักเกณฑ์พื้นที่ 6 ระดับ เหมือนกันทุกวิชาชีพ 2.ใช้หลักเกณฑ์อายุราชการ 3 ช่วงอายุ ได้แก่ ปีที่ 1-3 ปีที่ 4-10 ปีที่ 11 ขึ้นไป เหมือนกันทุกวิชาชีพ 3.เพิ่มกลุ่มสายงานส่งเสริมสุขภาพ ควบคุมป้องกันโรค ฟื้นฟูสมรรถภาพและคุ้มครองผู้บริโภค 4.ช่องว่างค่าตอบแทนระหว่างวิชาชีพลดลง

ทั้งนี้ หลักการสำคัญของการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน จะครอบคุลมงานบริการ งานบริหาร และงานวิชาการ โดยค่าตอบแทนที่เจ้าหน้าที่จะได้รับต้องผันแปรไปตามผลการปฏิบัติงานของแต่ละบุคคล ทั้งนี้ จะมีการกำหนดค่าคะแนนประกันผลการปฏิบัติงานขั้นต่ำ และมีการกำหนดกรอบวงเงินเพื่อจ่ายค่าตอบแทนโดยปรับฐานการจ่ายค่าตอบแทน ในกลุ่มเภสัชกร พยาบาล สหวิชาชีพ กลุ่มผู้ให้บริการตามระดับวุฒิการศึกษา สายระดับปริญญาตรีและต่ำกว่าปริญญาตรี ส่วนกลุ่มแพทย์และทันตแพทย์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนเงินที่เพิ่มมาที่จะนำมาจ่ายค่าตอบแทนได้มาจากการปรับพื้นที่โรงพยาบาล 2-300 แห่งที่มีความเจริญมากขึ้น ทำให้ลดพื้นที่ระดับทุรกันดาร โดยจะผู้มีส่วนร่วมปรับระดับพื้นที่ให้เหมาะสมต่อไป และจะเร่งให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 ส.ค. 2559 เวลา : 16:32:13

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 9:02 am