ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ประชุมทูตพาณิชย์ 9 ก.ย.นี้ เร่งผลักดันส่งออกครึ่งปีหลัง -วางแผนส่งออกรองรับพาณิชย์ 4.0


 


นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 กันยายน 2559 นี้ จะมีการประชุมหารือทูตพาณิชย์ทั่วโลก เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของแต่ละภูมิภาคในปีนี้ โดยจะประเมินจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง และราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมร่วมกันหารือกำหนดแผนเร่งรัดผลักดันการส่งออกทั้งในช่วงครึ่งปีหลังและในปีหน้า พร้อมทั้งจะได้มอบนโยบายให้กับทูตพาณิชย์เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ของกระทรวงในระยะต่อไป ภายใต้นโยบาย “พาณิชย์ 4.0” ด้วยวิสัยทัศน์ “ฉับไว โปร่งใส มองไกล ใกล้ประชาชน” สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี โดยในระยะเริ่มแรกจะเน้นการปฏิรูปการค้า อาทิ การแก้ไขปัญหาอุปสรรคการส่งออก การส่งเสริมภาคธุรกิจบริการ การใช้ช่องทาง E-Commerce เป็นต้น เพื่อให้เกิดการบูรณาการทำงานของกระทรวงทั้งส่วนกลางและต่างประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

โดยที่ภาวะเศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังฟื้นตัวช้า โดย IMF ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกเป็นร้อยละ 3.1 จากเดิมร้อยละ 3.2 และราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ จึงยังต้องติดตามในหลายประเด็นอย่างใกล้ชิดทั้งผลกระทบต่อเนื่องจาก BREXIT การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED และการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่กำลัง       จะเกิดขึ้น ตลอดจนผลกระทบจากการก่อการร้าย โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกหดตัวร้อยละ -2.3 อย่างไรก็ดี ส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ของไทยในตลาดส่งออกสำคัญส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับคู่แข่งยังอยู่ในเกณฑ์ดี

 วาระสำคัญของการประชุมทูตพาณิชย์ในวันที่ 9 กันยายน ศกนี้ นอกจากจะประเมินสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ พร้อมกับการหารือเรื่องการปรับกลยุทธ์เร่งรัดผลักดันการส่งออกในแต่ละภูมิภาค    ช่วงที่เหลือของปี 2559 แล้ว ยังจะวางแผนการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนต่างประเทศในระยะต่อไปเพื่อรองรับนโยบาย Thailand 4.0 อีกด้วย ทั้งนี้ กลยุทธ์และแผนผลักดันการส่งออกที่สำคัญ อาทิ

1. ผลักดันเป็นรายคลัสเตอร์เชื่อมโยงสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องทั้ง Supply chain ใช้โอกาสจาก Event ระดับโลก ธุรกิจก่อสร้าง สุขภาพและความงาม ธุรกิจ Digital content (animation ภาพยนตร์)     มุ่งตลาดอาเซียน เอเชียตะวันออก ยุโรป ตะวันออกกลางและเอเชียใต้

2. ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ทางการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ผ่านกลยุทธ์ Strategic Partnership เพื่อให้เป็น Spring Board ในการขยายลู่ทางไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิ เมียนมา (อาเซียน) อินเดีย (เอเชียใต้) สหรัฐฯ (อเมริกา+ลาติน) อังกฤษ (สหภาพยุโรป) รัสเซีย + คาซักสถาน (ยุโรปตะวันออก) ญี่ปุ่น+จีน (เอเชียตะวันออก)

3. ใช้กลยุทธ์ Less for More เน้นสินค้า margin สูง เจาะตลาดกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงซึ่งเป็นเทรนด์ร่วมที่เกิดขึ้นในหลายภูมิภาค ผ่านช่องทางการตลาดใหม่ๆ ที่ Customized อาทิ metrosexual กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสัตว์เลี้ยง  กลุ่ม Baby boom (อินเดีย จีน ประเทศเศรษฐกิจใหม่) กลุ่ม Hispanic (สหรัฐฯ ลาติน) สินค้าฮาลาล (ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ) กลุ่ม Superrich (จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง)

4. ใช้ Digital marketing ทั้งของไทย (Thaitrade.com)  และเชื่อมโยงกับ Global และ local platform ที่มีศักยภาพในตลาด  อาทิ ญี่ปุ่น สหรัฐฯ จีน ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีการยอดการบริโภคผ่าน  E-Commerce มากที่สุด

 
5. ผลักดันการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจรุ่นใหม่ (Innovation based and Creativity based Start-Ups) เพื่อสร้างฐานประเทศไทยสู่การเป็น Creative Thailand  (สหภาพยุโรป สหรัฐฯ ฮ่องกง สิงคโปร์)

6. ขยายลู่ทางตลาดใหม่ให้กับสินค้าศักยภาพดั้งเดิม ได้แก่ สินค้าเกษตรและอาหาร เครื่องจักรกลการเกษตร อาหาร แฟชั่น อัญมณีและเครื่องประดับ สินค้าอุปโภคบริโภค ในทุกตลาด

“ภายใต้นโยบาย “พาณิชย์ 4.0”กระทรวงพาณิชย์จะใช้กลไกทูตพาณิชย์และพาณิชย์จังหวัดร่วมเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เน้นการทำงานที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายและเกื้อกูลกัน เพื่อเชื่อมต่อชุมชน ท้องถิ่น จังหวัด กับระบบการค้าโลก โดยจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” นางอภิรดี กล่าวทิ้งท้าย
 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 ก.ย. 2559 เวลา : 13:42:51

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 6:32 pm