เมื่อ 7 กันยายน บริษัท แอปเปิล ผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ หอประชุม บิลล์ เกรแฮม ย่านดาวน์ทาวน์ ของนครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ 'iPhone 7' และ 'iPhone 7 Plus' ที่ตัดช่องต่อแจ็กหูฟังออก เน้นการใช้หูฟังไร้สายแทน พร้อมกับเทคโนโลยีกล้องและอื่นๆ ที่พัฒนาขึ้นจากเดิม และยังเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ 'Apple Watch Series 2' (แอปเปิล วอทช์ ซีรีส์ 2) ซึ่งยกระดับอุปกรณ์ภายในขึ้นอีกขั้น กันน้ำได้ดีขึ้น สามารถใส่ว่ายน้ำได้ และมาพร้อมกับจีพีเอส
ทิม คุก ซีอีโอ แอปเปิล แถลงข่าวเปิดตัวแนะนำความสำเร็จของแอปเปิลมิวสิค แอพสโตร์ จากนั้นได้เชิญผู้บริหารของนินเทนโด เปิดตัวเกม 'Super Mario Run' ซูเปอร์มาริโอ รัน บนแอพสโตร์ โดยนายชิเงรุ มิยาโมโตะ ผู้บริหารของบริษัท นินเทนโด ขึ้นเวทีกล่าวเปิดตัวเกม 'Super Mario Run' ใหม่ล่าสุดของซีรีส์ และเกมแรกของซีรีส์นี้บนสมาร์ทโฟน และผู้บริหารของไนอันทิก ผู้พัฒนาเกม 'Pokemon Go' แนะนำเกมโปเกมอนโก บนแอปเปิล วอชท์ ซีรีส์ 2 ซึ่งแอพพลิเคชั่น 'Pokemon Go' มีให้ดาวน์โหลนบน Apple Watch รุ่นใหม่ด้วย
ซีอีโอแอปเปิล แนะนำไอโฟน 7และไอโฟน 7พลัส บนระบบปฏิบัติการไอโอเอส 10 การออกแบบ แอปเปิลเพิ่มสีใหม่ให้กับไอโฟนทั้ง 2 รุ่นคือ สีดำ (แบล็ก) และ เจ็ต แบล็ก ปุ่มโฮม (home button) แอปเปิลออกแบบปุ่มโฮมใหม่ กันน้ำ และกันฝุ่นเข้าเครื่อง ได้มาตรฐาน IP67 สามารถป้องกันฝุ่นได้อย่างสิ้นเชิง ในส่วนของกล้อง แอปเปิล ใส่ระบบกันสั่น OIS (Optical image stabilization)จากเดิมเป็นฟังก์ชั่นที่มีเฉพาะในรุ่นพลัส
สำหรับ หูฟัง ถอดช่องเชื่อมต่อแจ็กหูฟังตามปกติออกจาก iPhone 7 และ 7 Plus จะมี อแดปเตอร์สำหรับต่อแจ็กหูฟังปกติกับช่องเชื่อมต่อ ไลท์นิง (Lightning) ให้แทน รวมทั้งเปิดตัว 'AirPods' (แอร์พอดส์) หูฟังไร้สายที่ทำงานร่วมกับชิพ W1 ซึ่งเป็นชิพไวเลสตัวแรกในสมาร์ทโฟนของแอปเปิล โดย AirPods สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone 7 และ 7 Plus หรือ Apple Watch ซีรีส์ 2 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ได้ด้วยการนำมาวางใกล้ๆ และกดปุ่มเชื่อมต่อที่ปรากฏขึ้นมาบนจอ
iPhone 7 มี 5 สีให้เลือกซื้อคือ เงิน, ทอง, สี rose gold , ดำเงา (jet black) และ ดำ โดยมีขนาดความจุให้เลือก 3 ขนาดคือ 32GB, 128GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วน iPhone 7 Plus มีราคาเริ่มต้นที่ 769 ดอลลาร์สหรัฐ ฯ เริ่มเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. นี้เป็นต้นไป และจะเริ่มวางขายใน 28 ประเทศ (ยังไม่มีไทย) ในวันที่ 16 ก.ย.นี้และจะวางจำหน่วยเพิ่มในอีกกว่า 30ประเทศในสัปดาห์ต่อมา
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ข่าวเด่น