ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ใช้ ม.44 ให้คดีมั่นคงกลับมาอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลยุติธรรม


 


เมื่อ 12 ก.ย. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 55/2559 เรื่อง การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบางประเภทที่อยู่ในอำนาจศาลทหาร ตามที่มีประกาศกองทัพบกและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ใช้กฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และต่อมามีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำหนดให้การกระทำความผิดบางประเภทที่เกิดขึ้นในราชอาณาจักรและในระหว่างการประกาศใช้ กฎอัยการศึกดังกล่าว อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร นั้น เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าว มาแล้วระยะหนึ่ง ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดีในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ความจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบแห่งชาติ ตามกฎอัยการศึกจึงควรผ่อนคลายลง ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติพิจารณาเห็นว่า ในช่วงเวลานั้น อยู่ระหว่างการจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งควรส่งเสริมให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพ ให้กว้างขวาง จึงได้มีประกาศพระบรมราชโองการ เมื่อวันที่ 1 เมษายน พุทธศักราช 2558 ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร แต่ไม่กระทบต่อประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ 19 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ส่วนการกระทำความผิดบางประเภทตามประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติยังคงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหารต่อไป
          
โดยที่บัดนี้ปรากฏว่าสถานการณ์บ้านเมืองในรอบสองปีที่ผ่านมามีความสงบเรียบร้อยเป็นลำดับ ประชาชนต่างมีเจตนารมณ์และให้ความร่วมมือที่ดีในการนำประเทศไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การปฏิรูปประเทศตามขั้นตอน และการสร้างความสามัคคีปรองดองที่ถูกต้องเป็นธรรม ดังเห็นได้จากกระบวนการลงประชามติ ที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้รับความเห็นชอบจากประชาชนด้วยมติท่วมท้น จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลงอีก เพื่อที่ทุกฝ่ายจะได้ใช้สิทธิ ปฏิบัติหน้าที่ของตน และได้รับความคุ้มครองตามกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งกำลังจะประกาศใช้ในเร็ววัน ตลอดจน ตามหลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชน
         
 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคาสั่ง ดังต่อไปนี้
         
 ข้อ 1 บรรดาการกระทำความผิดตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 38/2557 เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 50/2557 เรื่อง ให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่ใช้เฉพาะแต่การสงคราม ซึ่งได้กระทำตั้งแต่ วันที่คำสั่งนี้ใช้บังคับ ให้อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
         
 บรรดาการกระทำความผิดที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมตามวรรคหนึ่งไม่หมายความรวมถึงการกระทำความผิดที่กฎหมายว่าด้วยธรรมนูญศาลทหารบัญญัติให้เป็นอำนาจ พิจารณาพิพากษาของศาลทหาร โดยให้การกระทำความผิดดังกล่าวยังคงอยู่ในอำนาจการพิจารณา พิพากษาของศาลทหารต่อไป
          
ข้อ 2 ให้เจ้าพนักงานตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558
         
 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 13/2559 เรื่อง การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตรายต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ยังคงมีอำนาจหน้าที่ตามคำสั่งดังกล่าวต่อไป
          
ข้อ 3 ในกรณีเห็นสมควร ให้นายกรัฐมนตรีเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้
ข้อ 4 คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
          
สั่ง ณ วันที่ 12 กันยายน พุทธศักราช 2559 
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา 
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 12 ก.ย. 2559 เวลา : 16:57:17

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 2:37 pm