ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
กรมชลฯ แจงพื้นที่ตอนล่างไม่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น


 


ฝนลดน้อยลงในระยะนี้ กรมชลประทานเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจงพื้นที่ตอนล่างจะไม่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น

นายสัญชัย เกตุวรชัย อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ได้คาดการณ์สภาวะฝนในระยะนี้ว่า ในช่วงวันที่ 10 – 13 ต.ค. 59 ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางฝนจะลดน้อยลง ทำให้มีช่วงเวลาที่จะเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด เพื่อลดปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบนของเขื่อนเจ้าพระยา โดยปัจจุบัน(10 ต.ค. 59)มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,269 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทาน จะทยอยปรับการระบายน้ำเพิ่มเป็นอัตรา 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาสมดุลระหว่างปริมาณน้ำเหนือเขื่อนและปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อน และเพื่อให้มีพื้นที่ว่างรองรับปริมาณน้ำที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้ จะส่งผลให้พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณตั้งแต่ 25-75 เซนติเมตร 

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังในช่วงวันที่ 14 – 15 ต.ค. 59 ที่กรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร คาดการณ์ว่าจะมีฝนที่ตกชุกกระจายในพื้นที่ภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกอีกครั้ง ทำให้มีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มมากขึ้นอีก ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณน้ำที่ระบายจากเขื่อนป่าสักฯ จะไหลลงสู่เขื่อนพระรามหก กรมชลประทานได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในเกณฑ์ 600 – 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไม่กระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนพระรามหก ในเขต อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะไหลไปรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ปริมาณน้ำที่อ.บางไทร อยู่ในเกณฑ์ประมาณ 2,114 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำในเกณฑ์ปกติของฤดูกาล และจะไม่ทำให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำเข้าไปท่วมในเขตชุมชนหรือพื้นที่เศรษฐกิจ บริเวณจังหวัดปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครได้อย่างแน่นอน


 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 10 ต.ค. 2559 เวลา : 16:48:11

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 3:50 am