ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
'สุวพันธุ์'เผย 26 ต.ค.ประชุมหน่วยงานสรุปแผนอำนวยความสะดวกปชช.ที่จะเดินทางมาตั้งแต่ 28 ต.ค.


 


วันนี้ (22 ต.ค.59) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศตส. ได้เป็นประธานการประชุมศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ศตส. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศตส. ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศตส.ได้มีหารือพิจารณาเตรียมการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมสักการะและลงนามแสดงความอาลัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 22 – 24 ตุลาคม 2559 ซึ่งขณะนี้มีประชาชนทุกหมู่เหล่าได้เริ่มทยอยเดินทางเข้ามาร่วมงานพระราชพิธีฯ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและมีปริมาณเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทำให้การจราจรหนาแน่นในหลายพื้นที่ จึงต้องมีการทยอยปิดการจราจรตามแผนขั้นที่ 2  และเชื่อว่าที่สุดจะต้องปิดการจราจรทั้งหมด จึงขอฝากถึงประชาชนว่าการเดินทางเข้าพื้นที่อาจลำบาก และมีปัญหาอุปสรรคมากกว่าที่ผ่านมา แต่ ศตส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้เตรียมการด้านการคมนาคมขนส่งโดยจัดรถโดยสารขนส่งมวลชนของ ขสมก. และ Shuttle Bus เพื่อรับ – ส่งประชาชนอย่างเต็มที่เพื่อรองรับประชาชนให้มากขึ้น

ทั้งนี้ ทราบว่าปัญหาขณะนี้รถไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ และบางส่วนที่เข้าพื้นที่ไปแล้วกลับออกมารอรับประชาชนที่จุดต้นทางทำให้ยากลำบากมากขึ้น โดยการจราจรฝั่งธนบุรีบริเวณสะพานพระปิ่นเกล้าติดขัดอย่างมาก จึงขอแนะนำประชาชนให้เดินทางด้วยเรือโดยสารประจำทางจะสะดวกกว่า อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ระหว่างวันที่ 23 - 24 ตุลาคม 2559 การจราจรจะเบาบางกว่าวันนี้ รวมทั้ง ขอความร่วมมือประชาชนที่เช่าเหมารถจากต่างจังหวัดให้จอดรถที่ 8 จุดรอบนอกที่ทาง ศตส. ได้เตรียมไว้ โดย ขสมก.จะมีการจัดเตรียมรถรับ-ส่งประชาชนเข้าสู่พื้นที่ด้านในจุดที่ใกล้ที่สุดอีกครั้ง พร้อมทั้งขอทำความเข้าใจและแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมพื้นที่บนถนนบางส่วน สำหรับให้รถพยาบาลสัญจรได้สะดวกในดูแลประชาชนหากเกิดกรณีฉุกเฉิน และส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมเรื่องของขบวนเสด็จพระราชดำเนิน

สำหรับการอำนวยความสะดวกและดูแลประชาชนในวันที่วันที่ 23 – 24 ตุลาคม 2559 คาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ทั้งเรื่องของการจัดจุดจอดรถเพิ่มเติม การอำนวยความสะดวกให้บริการขนส่งนำประชาชนเข้าสู่พื้นที่ด้านใน พร้อมกันนี้ ได้มีการปรับในเรื่องของการดูแลทางการแพทย์และสาธารณสุขให้กับประชาชน โดยได้มีการเพิ่มแพทย์เดินเท้า จำนวน 200 คน เพื่อเข้าไปดูแลประชาชนได้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังมีโรงพยาบาลสนาม และมีแพทย์อาสาจากโรงพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 20 แห่ง เข้าร่วมด้วย โดยกระทรวงแรงงาน ได้เพิ่มเต็นท์เพื่อรองรับจำนวนแพทย์ที่กำกำลังจะเข้ามาเสริม ขณะเดียวกันได้มีการจัดเตรียมรถเข็นไว้สำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาคเอกชนโดยการนำรถเข็นมาเพิ่มให้อีกด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุม ได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านความสงบเรียบร้อย ซึ่งสถานการณ์ด้านความมั่นคงทุกอย่างตอนนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยราบรื่น ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุใดที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตามหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยด้านการข่าว ยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ในระดับสูงสุด เพื่อดูแลสถานการณ์และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ศตส. จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 เวลา 09.00 น. แต่หากมีประเด็นที่เป็นเรื่องสำคัญก็จะนัดประชุมผู้เกี่ยวข้องได้  โดยขณะนี้ ศตส. กำลังวางแผนเตรียมการอำนวยความสะดวกประชาชนในการที่จะเดินทางมาลงนามแสดงความอาลัยและเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป เป็นไปด้วยความราบรื่น เนื่องจากได้รับทราบว่าประชาชนจากต่างจังหวัดต้องการที่จะเดินทางมาเข้าเฝ้าฯ กราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง  เป็นจำนวนมาก ซึ่งในวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ศตส. จะได้ประชุมหารือร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปแผนการปฏิบัติทั้งหมด 

ขณะเดียวกันในส่วนของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอ.รส.) จะเป็นหน่วยในการดูแลด้านการปฏิบัติในพื้นที่ทั้งหมดโดย กอ.รส. จะมีการประชุมในเวลา 11.00 น. ของทุกวัน

รวมทั้ง ศตส. กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ Press Center ว่าควรดำเนินการในระดับใดและมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ประสานงานในพื้นที่และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบเป็นไปได้สะดวกรวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกทั้ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดทั้ง 3 วัน มีการระดมกำลังดูแลความปลอดภัย การจราจร ปัญหาอาชญากรรม เพื่อแก้ไขปัญหาและป้องกัน โดยระดมตำรวจจราจรจากทุกสถานี จำนวน 200 คน ดูแลพื้นที่ด้านในบริเวณพระราชพิธีฯ และเพิ่มกองกำลังที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาความสงบจากนครบาล 6 กองร้อย และ จากภูธรอีก 6 กองร้อย รวมเป็น 1,500 นาย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 23 ตุลาคม 2559 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะลงพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงด้วย

สำหรับการปิดการจราจร (ชั่วคราว) ระหว่างวันที่ 22 – 24 ตุลาคม 2559 ใน 27 เส้นทาง (ข้อมูล ณ วันที่ 22 ต.ค.59 เวลา 12.30 น.)  มีดังนี้

1) ถนนหน้าพระลาน ตลอดสาย 2) ถนนหน้าพระธาตุ ตลอดสาย 3) ถนนราชดำเนินในจากแยกผ่านพิภพ ถึง แยกป้อมเผด็จฯ 4) ถนนสนามชัย จากแยกป้อมเผด็จ ถึง หน้า สน.พระราชวัง 5) ถนนหับเผย 6) ถนนหลักเมือง 7) ถนนกัลยาณไมตรี ถึง สะพานช้างโรงสี  8) ซอยสราญรมย์ 9) ถนนพระจันทร์ 10 ถนนมหาราช ตลอดสาย 11) ถนนท้ายวัง ตลอดสาย 12) ถนนเชตุพน 13) ถนนเศรษฐการ 14) ถนนเจริญกรุง จากวงเวียน รด. ถึงแยกสะพานมอญ 15) ถนนพระพิพิธ 16) ถนนราชดำเนินนอก จากแยก จปร. ถึงแยกผ่านฟ้า 17) ถนนนครสวรรค์ จาก แยกจักรพรรดิพงษ์ ถึงแยกผ่านฟ้า 18) ถนนหลานหลวง จาก แยกหลานหลวง ถึง แยกผ่านฟ้า 19) ถนนราชดำเนินกลาง (ตลอดสาย) 20) ถนนพระสุเมรุ จากแยกวันชาติ ถึง แยกป้อมมหากาฬ 21) ถนนมหาชัย จากแยกสำราญราษฎร์ ถึง แยกป้อมมหากาฬ 22) ถนนดินสอ จากแยกวันชาติ ถึง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 23) ถนนดินสอ จาก อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึง ยากมหรรณพ 24) ถนนตะนาว จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง แยกคอกวัว 25) ถนนตะนาว จาก แยกศาลเจ้าพ่อเสือ ถึงแยกคอกวัว 26) ถนนจักรพงษ์ จาก แยกตัดถนนข้าวสาร ถึง ถนนราชดำเนินกลาง 27) ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้าจากแยกอรุณอัมรินทร์ ถึง แยกผ่านพิภพ

ทั้งนี้ขอแนะนำให้ใช้เส้นทางเลี่ยง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ดังนี้

1) กรณีรถที่มาจากทางด่วนยมราชให้ใช้เส้นทาง ถนนพิษณุโลก

2) กรณีที่ใช้รถบนทางพิเศษ (เนื่องจากทางลงทางด่วนยมราชการจราจรหนาแน่นมาก)

-ที่มาจากแจ้งวัฒนะจะไปทางงามวงศ์วาน ให้ซ้ายออกคู่ขนานตรงทางด่วนประชาชื่น เพื่อออกไปทางถนนรัชวิภา และถนนวิภาวดี

– ที่มาจากทางด่วนประชาชื่นลงทางด่วนพระราม 6

- ที่มาจากทางด่วนมักกะสันให้ลงทางด่วนอนุสาวรีชัยสมรภูมิ

- ที่มาจากทางด่วนพระราม 4 ให้ลงทางด่วนหัวลำโพง

- ที่มาจากต่างระดับศรีนครินทร์ให้ลงด่วนพระราม 9 และใช้ทางพื้นราบ

3) กรณีมาจากคู่ขนานขาเข้า ให้ใช้ถนนสิริธร – บางพลัด – สะพานกรุงธน(ซังฮี้)

4) กรณีประชาชนจากฝั่งธนบุรีที่จะเข้ามาร่วมงานพระราชพิธีฯ ขอให้ใช้บริการเรือข้ามฝากมาท่าพระจันทร์ และท่าช้าง ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางและข้อมูลสภาพจราจรเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 หรือ www”TRAFFICPOLICE.GO.TH


 

บันทึกโดย : วันที่ : 22 ต.ค. 2559 เวลา : 17:33:14

19-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 19, 2024, 6:40 pm