ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 19,121.60 จุด เพิ่มขึ้น 23.70 จุด หรือ +0.12% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 5,379.92 จุด เพิ่มขึ้น 11.11 จุด หรือ +0.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด หรือ +0.13%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 3.2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 2 ปี และสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผย ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีราคาบ้านของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.5% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2006
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวในกรอบแคบๆ เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงเกือบ 4% ก่อนที่การประชุมโอเปกจะมีขึ้นในวันนี้ นักวิเคราะห์คาดที่ประชุมของกลุ่มโอเปก (30พ.ย.) จะล้มเหลวในความพยายามบรรลุรายละเอียดข้อตกลงลดกำลังผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี เพื่อบรรเทาภาวะอุปทานล้นตลาดและกระตุ้นราคาน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 1.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.86 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 3 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,190.80 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 2 ปี และราคาบ้านที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปี
.jpg)
ข่าวเด่น