ตลาดหุ้นไทยวานนี้
  

SET INDEX วานนี้ พยายามไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,500 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธนาคาร และ AOT อีกทั้งผลของการปรับดัชนี MSCI ส่งผลให้ SET INDEX ปิดยืนเหนือ 1,500 จุดได้อีกครั้ง มาอยู่ที่ 1,510.24 จุด บวก 13.06 จุด มูลค่าการซื้อขายมากถึง 69,967 ล้านบาท
  

แม้ว่าต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 2,112 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures มากถึง 14,023 สัญญา และคงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อีก 193 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
  

รายงาน Beige Book เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวดีเล็กน้อย

ปลัดก.คลัง ยืนยันมีโครงการช็อปช่วยชาติ#2 รอเสนอครม.พิจารณา

ผลการประชุมโอเปก ตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน เริ่มเดือนม.ค. 2560

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง – Sideways (วันที่ 17)
  

เราประเมินว่า SET INDEX ที่ปิดบวกเด่นวานนี้เป็นผลจากแรงเก็งกำไรของพอร์ตโบรกเกอร์ในช่วงท้าย ต่อผลการประชุมโอเปกคืนวานนี้ โดยท้ายที่สุดสมาชิกโอเปกสามารถตกลงร่วมกันลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน รวมถึงกลุ่มโอเปกจะร่วมมือกับนอกกลุ่มโอเปกอย่างรัสเซียในการลดกำลังการผลิต เพื่อรักษาระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดบวกกว่า 9% dod คืนวานนี้ ย่อมเป็นบวกต่อจิตวิทยาการลงทุนในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของตลาดหุ้นไทยในวันนี้
  

ด้านรายงาน Beige Book ส่งสัญญาณแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นบวกเล็กน้อย ตลาดแรงงานยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แต่ค่าจ้างงานกลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เฟดตัดสินใจทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  

กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และหุ้นกลุ่มขนส่งระบบรางในช่วงนี้จะแข็งแกร่งกว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทย เพราะมีประเด็นสำคัญรออยู่คือการประกาศผลการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม – เหลือง – ชมพู ช่วง 1-2 เดือนนี้ ทั้งนี้จับตาหุ้นกลุ่มธนาคารที่จะเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน 3 โครงการมูลค่างานเกือบ 2.0 แสนล้านบาท
  

กลยุทธ์การลงทุน

เราคงแนะนำ “ถือพอร์ตเพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 1,520 จุด +/-“ พร้อมประเมินกรอบแกว่ง SET INDEX วันนี้ระหว่าง 1,500-1,520 จุด

Strategy of the Day

1. สะสม BEM  : ราคาปิด 7.75 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
  

a) เราประเมินว่าขั้นตอนการพิจารณาด้านราคาของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม – เหลือง – ชมพู จะมีการผลักดันให้เร็วขึ้น ซึ่ง 3 โครงการดังกล่าว BEM ได้ผ่านเกณฑ์ด้านเทคนิคทั้งสิ้น หาก BEM ชนะไม่ว่าโครงการใดใน 3 โครงการย่อมมีผลต่อประมาณการระยะยาวของเรา
  

b) คาดกำไรจากการดำเนินงานปกติ 4Q59 – 2Q60 จะเติบโต yoy จากการรับรู้รายได้จากทางด่วนศรีรัช ส่วนต่อขยาย และค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ต่อเนื่อง อีกทั้งดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการ Refinance
  

c) นอกจากนี้ BEM มีปัจจัยบวกสำคัญรออยู่ ในช่วงที่เหลือของปีนี้คือ การสรุปและลงนามสัญญาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย พร้อมขยายอายุสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมออกไปอีก 20 ปี ซึ่งยังไม่รวมไว้ประมาณการ หากเกิดขึ้นจริงจะมีผลต่อราคาเหมาะสมอีก 1.00 บาทต่อหุ้น

2. เก็งกำไร IRPC : ราคาปิด 4.84 บาท ราคาเหมาะสม 5.70 บาท
  

d) ราคาน้ำมัน NYMEX คืนวานนี้ปิดบวกกว่า 9% dod หลัง OPEC เห็นชอบลดกำลังการผลิต ย่อมเป็นสัญญาณบวกต่อกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีของตลาดหุ้นไทยในวันนี้
  

e) คาดกำไรจากกการดำเนินงานปกติ 4Q59 เติบโต qoq จากโครงการ UHV เดือนเครื่องเต็ม 100% เป็นไตรมาสแรก เป็นบวกต่อ GRM ปรับตัวขึ้น และอาจได้ข้อสรุปค่าปรับงานล่าช้าภายในปีนี้ และบันทึกเป็นกำไรพิเศษใน 1Q60
  

a) คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2560 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต +10% yoy เป็น 11,412 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้โครงการ UHV เต็มปี นอกจากนั้น ยังมีจุดเด่นที่จ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง จึงให้ผลตอบแทนจากจากเงินปันผลปี 2559 สูงถึง 4.75%