ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายการเงินในการแถลงข่าว จึงสร้างความผิดหวังให้แก่ตลาดการเงิน และส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง โดยด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาบริเวณ 102 จุด จากระดับ 103 จุดโดยประมาณ ขณะที่ค่าเงินบาทเองกลับแข็งค่าลงมาเช้านี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 35.40 บาท/ดอลลาร์ โดยที่ภาพรวมของราคาทองคำในตลาดโลกก็มีแรงซื้อกลับ ขณะที่ SPDR ไม่ได้ทำอะไร ยังคงถือครองทองคำที่ระดับ 805 ตัน สำหรับเมื่อวานนี้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ แต่ในวันนี้จะมีการประกาศ Jobless Claims ที่คาดว่าจะมีคนขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ Import Price คาดจะออกมาดีขึ้น


วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในทางเทคนิคราคาทองคำระยะกลางกลับสู่ทิศทางขาขึ้นอีกครั้ง และจะมีแนวต้านถัดไปซึ่งเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยาบริเวณ 1,200 เหรียญ และ 1,210 เหรียญตามลำดับ และวันนี้คาดจะมีแนวรับที่ระดับ 1,180 เหรียญ ด้านราคาทองคำไทยจะมีแนวรับที่ 19,900 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,100 บาท/บาททองคำ โดยราคาทองไทยจะปรับตัวขึ้นได้ช้ากว่าราคาทองคำตลาดโลก จากการแข็งค่าของค่าเงินบาท


กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำกลยุทธ์ทิศทางขาขึ้น

 - นักลงทุนที่ถือ Long Position  หาจังหวะเปิดสถานะบริเวณแนวรับ และขายปิดทำกำไรบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position  หาจังหวะปิดสถานะบริเวณแนวรับเพื่อลดความเสี่ยงจากภาพของตลาดที่กลับเป็นขาขึ้น


กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนะนำให้ทำการลด Short Position ออก หรือทำ Square Off เพื่อลดสถานะในสภาวะที่ตลาดเริ่มกลับเป็นขาขึ้น


Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,240 บาท
Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,320 บาท