แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ   1,207   1,198   1,187
แนวต้าน   1,223   1,233   1,240

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่ม ขึ้น 13.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยช่วงต้นวันราคาทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนการแถลง เกี่ยวกับ Brexit ของนางเทเรซา เมย์  นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ  ซึ่งนางเมย์ได้กล่าวว่า  อังกฤษจะออกจากตลาดรวมของอียูแต่ให้สัญญาว่าจะให้รัฐสภาอังกฤษโหวตข้อตกลง ใดๆในเรื่อง Brexit และย้ำว่าอังกฤษจะพยายามเป็นหุ้นส่วนสำคัญของยุโรปต่อไป ซึ่งช่วยคลายความกังวลให้แก่ตลาด  อย่างไรก็ดีราคาทองคำยังคงทรงตัวอยู่ในแดนบวกโดยได้รับแรงหนุนเพิ่มจากการ อ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หลังนายโดนัล  ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า  การแข็งค่าของดอลลาร์เมื่อเทียบกับหยวนนั้นกำลังสร้างความเสียหายให้กับ ศก.สหรัฐ  ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ให้ร่วงลงและหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์  ขณะที่วันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ของสหรัฐ, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ, สุนทรพจน์ประธานเฟดมินนีแอโพลิสและประธานเฟดนางเจเน็ต เยลเลน

ปัจจัยทางเทคนิค
  ราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ มีผลให้ราคาดีดตัวขึ้น โดยราคามีโอกาสขึ้นมาถึงบริเวณกรอบแนวต้านโซน 1,223 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นคาดจะมีแรงขายทำกำไรออกมาแต่หากตลอดทั้งวันยังสามารถยืนเหนือระดับ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ คาดจะเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES 
   ให้ใช้แนวรับ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดในการเสี่ยงเข้าซื้อเก็งกำไรได้ หรือหากรับความเสี่ยงได้น้อยหรือถือทองคำในมืออยู่แล้วอาจรอดูว่าแนวรับถัด ไป 1,200-1,198 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนแข็งแกร่งพอจึงตัดสินใจเข้าซื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตามถ้าผ่านแนวต้าน 1,223 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการเข้าขายออกไปก่อน