ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐฯ ปรับเพิ่ม ขณะที่กลุ่มโอเปกแสดงท่าทีลังเลในการต่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิต
   - เบเกอร์ ฮิวจ์ รายงาน จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 617 แท่น นับเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 58 ทั้งนี้ จำนวนแท่นขุดเจาะที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ นับเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเพิ่มการผลิตน้ำมันอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่กำลังเดินหน้าปรับลดการผลิตตามข้อตกลง
  - อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านพลังงานของซาอุดีอาระเบีย คาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจไม่มีแผนปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มเติมนอกเหนือจากช่วงเวลาที่ ตกลงไว้ในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 59 เนื่องจากการที่กลุ่มโอเปกปรับลดกำลังการผลิตลงกลับทำให้ผู้ผลิตน้ำมันดิบ จากชั้นหินดินดานสหรัฐฯ (Shale Oil) ปรับเพิ่มกำลังการผลิตและได้รับผลประโยชน์มากขึ้น

+ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. 60 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 200,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานสหรัฐฯ ปรับลดลงสู่ระดับ 4.7% ตามการคาดการณ์ ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานที่ปรับเพิ่มและอัตราการว่างงานที่ปรับลดนับเป็นสัญญาณบ่ง ชี้ถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเล็กน้อย จากแรงหนุนอุปสงค์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากประเทศมาเลเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซินโดยรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังใน ภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูงและอุปสงค์จากประเทศอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศ ผู้นเข้าหลักที่ชะลอตัวลง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากแรงกดดันของอุปทานน้ำมันดีเซลกำมะถันต่ำในภูมิภาคที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากประเทศอินโดนีเซีย

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 47-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 50-55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง
จับตาการประชุมในวันที่ 17 มี.ค. นี้ เพื่อติดตามผลการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงติดตามตัวเลขปริมาณการผลิตของกลุ่มโอเปกในสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถปรับลดกำลังการผลิตในเดือนก.พ. ได้มากกว่าในเดือนม.ค. หลังรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของคูเวต เผยว่าผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกได้ปรับลดกำลังการผลิตลงราว 140% ของข้อตกลงที่จะปรับลดราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่กลุ่มโอเปกได้ปรับลดในเดือนม.ค. ที่ 93% ของข้อตกลง
จับ ตาการปรับลดกำลังการผลิตของรัสเซีย หลังรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย เผยว่ารัสเซียสามารถปรับลดกำลังการผลิตได้ราว 50% ของข้อตกลง หรือราว 150,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะปรับลดการผลิตลงราว 200,000 บาร์เรลต่อวันภายในเดือนมี.ค. และปรับลดได้ตามข้อตกลง หรือ 300,000 บาร์เรลต่อวันภายในเดือนเม.ย.
ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ คาดจะยังคงสูงต่อเนื่อง จากโรงกลั่นในประเทศยังคงอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 มี.ค. 60 ปรับเพิ่มขึ้น 8.2 ล้านบาร์เรล มาสู่ระดับ 528.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติการณ์