คำแนะนำ
  เน้นทำกำไรระยะสั้น โดยการเข้าซื้อมีแนวรับบริเวณ 1,243-1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พิจารณาถึงความเสี่ยงจากผลการประชุมเฟด

แนวรับ-แนวต้าน
  แนวรับ 1,243 1,232 1,223
  แนวต้าน 1,268 1,279 1,288

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดทรงตัว  โดยในระหว่างการซื้อขายราคาอ่อนตัวลงตัวไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์บริเวณ 1,251.37  ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการแข็งค่าของดอลลาร์  อย่างไรก็ดีราคาฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในเวลาต่อมาจากสกุลเงินดอลลาร์ที่กลับมาอ่อนค่าหลังการเปิดเผยยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย.ของ 5 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตรถยนต์ในสหรัฐต่างก็รายงานยอดขายที่ร่วงลงในเดือนเม.ย. ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ปีนี้ในสหรัฐอาจต่ำกว่าปีที่แล้วและอาจเป็นยอดขายรายปีที่ร่วงลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2009  อย่างไรก็ดีการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำเป็นไปอย่างจำกัดเช่นกัน  เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อ-ขายทองคำก่อนการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางดึกเวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย  ทั้งนี้  คาดว่าเฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยแต่แนะนำจับตาแถลงการณ์นโยบายซึ่งอาจบ่งชี้ว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ยังคงต้องติดตามการเปิดเผยตัวเลขภาคบริการของสหรัฐและตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP เพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจลงทุน

ปัจจัยทางเทคนิค
  ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ โดยหากยืนเหนือบริเวณ 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับขึ้นจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,279 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก กรอบด้านล่างจะอยู่ที่ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดยังคงจะรักษามุมมองเชิงบวกไว้ได้

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
  เน้นทำกำไรระยะสั้นโดยรอเปิดสถานะซื้อ โดยอาจใช้บริเวณ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดให้ชะลอการเข้าซื้อไปยังโซนแนวรับถัดไป ขณะที่หากราคาดีดตัวขึ้นแนะนำทยอยแบ่งปิดสถานะทำกำไรตั้งแต่ราคา 1,268 ดอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อรอเข้าซื้อใหม่เมื่อราคาอ่อนตัว