คำแนะนำ
มีแนวโน้มที่จะทดสอบแนวต้าน 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งทองคำขายทำกำไร อย่างไรก็ตามหากไม่ผ่าน ประเมินแนวรับที่ 1,252ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ-แนวต้าน
แนวรับ 1,252 1,245 1,236
แนวต้าน 1,278 1,287 1,296

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 11.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึงแม้จะได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าหลังสหรัฐเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 จีดีพีไตรมาส 1/60 อยู่ที่ระดับ 1.2% ซึ่งสูงกว่าระดับ 0.7% ในการประมาณการครั้งแรก  ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนก็ลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เช่นกัน  ทั้งนี้  ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ได้แก่สภาวะความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษหลังโพลล์ล่าสุดบ่งชี้ว่าพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ มีคะแนนนำพรรคแรงงานเพียง 5 จุด ในช่วงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 8 มิ.ย.อีกทั้งความไม่แน่นอนทางการเมืองอันเนื่องมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์  ทรัมป์ที่ออกมาวิจารณ์ว่าเยอรมันร้ายกาจเรื่องการค้าหลังจากที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับเยอรมนีในปีที่แล้วและกล่าววิพากษ์วิจารณ์ประเทศพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในระหว่างการประชุมจี-7 อีกด้วย  ขณะที่วันนี้ตลาดการเงินของจีนปิดทำการเนื่องในเทศกาลไหว้บะจ่างและตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการเนื่องในวัน Memorial Day

ปัจจัยทางเทคนิค
  ราคาขยับขึ้นแต่ก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมา ขณะที่ความผันผวนของราคาลดลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง โดยมีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมา โดยมีแนวรับในโซน 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES
  เน้นเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยแนะนำให้นักลงทุนรอจังหวะเข้าซื้อ หากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และสำหรับการขายให้ทยอยขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นไปทดสอบบริเวณแนวต้าน 1,278  ดอลลาร์ต่อออนซ์