นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่12 จ.ชัยนาท เปิดเผยว่า ตนได้ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่4 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง 7จังหวัด ประกอบด้วย จ.ชัยนาท อุทัยธานี สิงห์บุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี และจ.พระนครศรีอยุธยา ว่า จากการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำพบว่า อิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกมากขึ้นและเกิดน้ำป่าไหลหลากและมวลน้ำจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยตรวจสอบที่จุดวัดน้ำหน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ พบว่าปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาวัดได้976ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเพิ่มขึ้น528ลูกบาศก์จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาวัดได้16.75เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงขึ้น25ซ.ม.ในรอบ1สัปดาห์ ส่วนท้ายเขื่อนวัดได้10.92เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นไปที่ 790ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องรักษาการระบายน้ำไว้ในเกณฑ์800-850ลูกบาศก์เมตร ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทองและ.จ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น60-800ซ.ม.โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ในตำบลบางหลวงโดด อำเภอบางบาล และตำบลบ้านกระทุ่ม ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำล้นตลิ่งได้ จึงควรเก็บของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังติดประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป