Nomura : Key Factors

• (+) OIL: สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ US จาก EIA -4.72M มากกว่าคาดที่ -3.46M
• (+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +1.55% สู่ $47.12/bbl / BRT +1.76% สู่ $49.7/bbl
• (*) Int Factor: จับตาการรายงานกำไร 2Q17 ของธนาคารขนาดใหญ่ ในวันนี้
• (*) Ex Factor: วันนี้ติดตามการประชุม ECB & BOJ คาดคงดอกเบี้ยและวงเงินซื้อสินทรัพย์
• (*) Fund Flow:วานนี้ต่างชาติขาย 120 ลบ., Long Future 9187 สัญญา,ขาย Bond 663 ลบ.

Nomura Daily Top Picks : PM, AMATA, BLAND

Equity Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ แกว่งขึ้น ในกรอบแนวต้าน 1579/1585 จุด และแนวรับ 1569/1564จุด วานนี้ EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯรายสัปดาห์ ปรับตัวลง -4.727 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดที่ -3.462 ล้านบาร์เรล ผสานความคาดหวังเชิงบวกต่อการปรับลดการส่งออกน้ำมันดิบของกลุ่ม OPEC เพิ่มเติมในช่วงถัดไป เป็นแรงส่งให้ราคาน้ำมันดิบโลกวานนี้ดีดตัวขึ้นราว +1.5-1.7% (Brent ขึ้นทดสอบแนวต้านจิตวิทยาที 50 เหรียญต่อบาร์เรล) ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงเก็งกำไรในกลุ่ม ENERG นำตลาดฟื้นตัว (PTT, PTTGC) ผสานปัจจัยในประเทศที่คาดยังคงได้อานิสงส์บวกต่อการแข็งค่าขึ้นของค่าเงิน บาท กระตุ้น Fund Flow มีโอกาสไหลเข้า ผลักดันดัชนีแกว่งขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงสั้นยังคงแนะติดตามการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจด ทะเบียนในช่วง 2Q17 ซึ่งเช้านี้มีการรายงานกำไรของ BANK ใหญ่ 2 แห่ง คือ KTB และ KBANK ซึ่งกำไรต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดราว -53% และ -9.9% ตามลำดับ อาจเป็นปัจจัยเข้ามากดดันเล็กน้อย เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมาไประดับหนึ่งแล้ว ส่วน BANK ขนาดใหญ่ที่เหลืออีก 2 แห่ง คือ SCB, BBL ซึ่งคาดจะรายงานในวันนี้ เป็นปัจจัยที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ภาพรวมตลาดในช่วงถัดไปได้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศ อื่นๆ ที่น่าจับตาในวันนี คือ 1) การประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% และ 2) การประชุม ECB คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม รวมถึงคงวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ขณะที่ปัจจัยที่สนใจคือ ถ้อยแถลงของ นายมาริโอ ดรากี้ ต่อวงเงินการเข้าซื้อสินทรัพย์ในช่วงถัดไป ที่มีโอกาสปรับลดลงได้ (Nomura คาดจะลดลงในช่วง 1Q18)

Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

Daily Strategy :   5 Theme เด่น วันนี้ เน้น Mid-Small Caps Play เป็นหลัก
  1. กลุ่มคาดกำไร 2Q17 เด่น แนะสะสม : PM, PSTC, MONO, ERW, AMATA, IVL, IRPC
   2. นักท่องเที่ยว UAE ซึ่งเป็นกลุ่มหลักที่เข้ามารักษาพยาบาลในไทยฟื้นตัวเด่น ผสานหน้าฝนที่มาเร็ว จะเป็นแรงหนุนกลุ่ม รพ. ฟื้นตัวรอบใหม่ เน้น BH, BDMS, CHG และ BCH
  3. สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลงมากกว่าคาด กระตุ้นกลุ่ม ENERG แนะ PTT, PTTGC เด่น
   4. กลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ แนะกลุ่มสายการบิน (BA, AAV) หุ้นที่มีสัดส่วนการนำเข้าสูง (TVO) และกลุ่มนิคมฯมีเงินกู้เป็นเงินต่างประเทศ คือ  AMATA, WHA สัดส่วนราว 10% และ 7%
  5. Domestic Play : คาดเศรษฐกิจไทยค่อยๆฟื้นตัวขึ้น กระตุ้นบวกต่อภาคการบริโภคภายในประเทศ (BJC, ROBINS), ความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เก็งกลุ่มรับเหมา-วัสดุก่อสร้าง (CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, PYLON, SCC), ธนาคาร (SCB, KBANK, BBL), นิคมฯ (AMATA, WHA), อสังหา (BLAND, ANAN, AP) เด่น

Weekly Strategy :
    Weekly Outlook : ขึ้นจำกัด แนวต้าน 1585/1595จุด แนวรับ 1570/1565จุด เลือก IVL, AMATA, BJC เป็น weekly top picks
    Mr. Market: MONO : เก็งกำไร 2Q17 คาดฟื้นตัวเด่น ผสานตลาดปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐาน
    Quant Value : ทยอยสะสมหุ้นที่แนวโน้มกำไร 2Q17F เติบโตเด่น คาดจะ Outperform ตลาดได้ เลือก TTCL เป็น Top Pick

Investment Theme :

•  3Q17 Top Picks : ADVANC, AMATA, BJC, BLAND, CK,  ERW, MONO

          Low Base Effects : ท่องเที่ยว (MINT, ERW), สื่อ (PLANB, MONO, BEC), ค้าปลีก (BJC, ROBINS), สื่อสาร (ADVANC, INTUCH)
          Momenturm Play : ปิโตร (IVL, IRPC), รับเหมาและวัสดุก่อสร้าง (CK, SCC), นิคมฯ (AMATA, ROJNA), อสังหา (BLAND, SIRI)

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PM (TP17.4*):  Support 12.0/11.5 Resistance 13.4/14.0

• Theme : Earnings play
• Earnings Outlook :  แนวโน้มกำไรช่วง 3 ปีนี้จะเข้าสู่ช่วงเติบโตรอบใหญ่เฉลี่ย CAGR 22% ต่อปี จากกลยุทธ์ที่เป็นเชิงรุกมากขึ้น เริ่มนำ Taro บุกตลาดต่างประเทศ รวมถึง ตัดธุรกิจขาดทุนทิ้ง เน้นธุรกิจหลัก โดยคาดกำไรปีนี้จะเพิ่มขึ้น +55% y-y
• Valuation : ภาพของบริษัทจะเปลี่ยนจาก Div play เป็น Growth stock + high div โดย Div yield 6.4% และมี Valuation น่าสนใจ โดยมี PER ปี 2017F เพียง 13.9 เท่า ยังต่ำกว่า TKN ซึ่งสูงถึง 32 เท่า
• Catalyst : ปัจจุบันอยู่ในระหว่างเจรจากับประเทศปลายทางส่งออก เราคาดว่าภายใน 3Q17F จะทยอยเห็นยอดการส่งออกของ TARO ไปต่างประเทศในโซนใกล้เคียง หนุนฐานกำไรเติบโตรอบใหม่ใน 3 ปีข้างหน้า  

AMATA (TP18.9*):  Support 15.3/14.5 Resistance 16.7/17.4

• Theme : Earnings play
• Earnings Outlook : คาดกำไรจะกลับสู่รอบการเติบโตโดดเด่นอีกครั้งช่วง 2 ปีนี้ เฉลี่ย 25% ต่อปี จากทั้งรายได้โรงไฟฟ้าและยอดขายที่ดิน โดยระยะสั้นโมเดมนตัมกำไรเป็นจังหวะที่ดี คาดกำไร 2Q17F 310 ล้านบาท (+62%y-y, +24%q-q) ตามการโอนที่ดินมากขึ้น และโมเมนตัมกำไร 2H17F คาดยังเพิ่มสูงขึ้นจาก 1H17 โดยปัจจุบันมี Backlog  การขายที่ดิน คิดเป็นแล้ว 74% ของประมาณการทั้งปี
• Valuation : ราคาหุ้นยังมี Valuation ที่น่าจูงใจ โดยมี PER ปี 2017F 11.0 เท่า ยังใกล้เคียงค่าเฉลี่ยอดีต ขณะที่ กำไรกลับสู่รอบขาขึ้น 
• Catalyst : 1)นโยบาย EEC ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ต่อพื้นฐานบริษัท 2) AMATA มา CNS Corporate วันนี้ 3)ทิศทางเงินบาทแข็งค่าเป็นปัจจัยบวกต่อ AMATA ได้รับประโยชน์สูงสุดในกลุ่ม เนื่องจากบริษัทร่วมมีเงินกู้เป็นเงินกู้ต่างประเทศ โดยเงินบาทแข็งค่า 6.17% YTD

BLAND (TP2.8*):  Support 1.80/1.77 Resistance 1.90/1.94

• Theme : Infrastructure play
• Earnings Outlook : เข้าสู่ช่วงพัฒนาพื้นที่เมืองทองอีกครั้ง และเพิ่มสัดส่วน Recurring income จากโครงการใหม่ๆ โดย IBIS (โรงแรม 3ดาว) และThe portal (ห้างเล็กๆบริเวณศูนย์ประชุมทุกจุด) เปิดให้บริการแล้ว นอกจากนี้ Cosmo Bazaar (แหล่งShopping) และ Cosmo Office Park(ออฟฟิศให้เช่า) คาดเปิดให้บริการมิ.ย.นี้ รวมถึง รถไฟฟ้าสีชมพูที่จะเกิดขึ้น โดยรวมแม้ประเมินกำไรใน 3 ปีนี้อิง Conservative คาดทรงตัว แต่คุณภาพของกำไรช่วง 3 ปีนี้ดีขึ้นจากอดีต + มี Upside risk จากหลายโครงการที่จะทยอยเกิดขึ้น
• Valuation : ราคาหุ้นยังอยู่ในจุดที่มีความคาดหวังต่ำ โดยซื้อขาย P/BV ต่ำราว 0.79 เท่า เทียบกับโอกาสที่ราคาที่ดินยังมีโอกาสเพิ่มอีกมากหากรถไฟฟ้าให้บริการ
• Catalyst : ประชุมผู้ถือหุ้น 27 ก.ค.นี้ + รถไฟฟ้าสายสีชมพู คาดจะเริ่มก่อสร้างปลายปี 2017F เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และหนุนโอกาสเกิดขึ้นของส่วนต่อขยาย 2 สถานีเข้าเมืองทอง

Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)