สรุปแนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยเช้านี้ โบรกฯ คาด Sideways หลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ จึงอาจมีแรงขายทำกำไร ลุ้นแนวต้าน 1,730-1,734 จุด จับตากลุ่มแบงก์ทยอยแจ้งงบไตรมาส 3/60 กลุ่มพลังงานยังสดใสหลังราคาน้ำมันดิบบวกต่อ ขณะที่ฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้า โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิ 1.2 พันลบ.

  *ภาวะตลาดหุ้นไทย

  ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวานนี้ (16/10/60) สดใส ดัชนี SET สามารถทะลุแนวต้านสำคัญ 1,725 จุดขึ้นไปได้ โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,728.62 จุด ก่อนจะปิดที่ 1,726.67 จุด +14.19 จุด หรือ + 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 6.6 หมื่นลบ. โดยหุ้นที่ดันดัชนีวานนี้ 5 อันดับแรก ได้แก่ PTT-BAY-AOT-BBL และ BDMS
  สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1233.67 ลบ.

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ

  - ดาวโจนส์บวก 85.24 จุด หลังหุ้นแบงก์บวกคึกคัก ก่อนประกาศผลประกอบการ
  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 22,956.96 จุด เพิ่มขึ้น 85.24 จุด หรือ +0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,557.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.47 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,624.00 จุด เพิ่มขึ้น 18.20 จุด หรือ +0.28%
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 16 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 51.87 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ หรือ 0.82%
  ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบไลท์ปิดบวกวานนี้ เป็นผลมาจากนักลงทุนเปิดสถานะซื้อ หลังกองทัพอิรักปะทะกับกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ด ส่งผลให้การผลิตน้ำมันในอิรักลดลงกว่า 500,000 บาร์เรล/วัน ทำให้อุปทานที่ออกสู่ตลาดลดลง แม้กองทัพอิรักจะสามารถยึดท่อส่งน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมัน และแหล่งผลิตน้ำมันไว้ได้ก็ตาม

  * ประเด็นที่ต้องติดตาม

  - การทยอยประกาศงบไตรมาส 3/60 ของ บจ. นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 
  - วันพุธติดตามการประชุมสมัชชาจีนครั้งที่ 19 เพื่อติดตามการเมืองจีนและแผนเศรษฐกิจในอนาคต 
  - วันพฤหัสจีนรายงาน GDP Q3/60

  *มุมมองโบรกฯ เช้านี้

  บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าต่อเนื่อง รวมถึง sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อาจเกิดแรงขายทำกำไรจากการปรับขึ้นแรงวานนี้ ดังนั้น ประเมินว่า SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,730-1,734 จุด
  บล.เคทีบี คาดดัชนีฯ มีโอกาสเดินหน้าต่อ จากเม็ดเงินที่ไหลกลับเข้ามาในสตลาดหลังผ่านช่วงวันหยุด เรามองเป้าสูงสุดของดัชนีฯรอบนี้ ไว้ที่ 1,758 จุด ตัวแปรสำคัญ ยังเป็นของไทยเอง คือ การเมือง ในเรื่องกำหนดการเลือกตั้งปลายปีหน้า ที่เป็นการปลดล็อตตลาดหุ้นไทยไม่ให้ดีเหมือนตลาดหุ้นเอเซียแห่งอื่นๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา และกำไรของตลาดหุ้นที่ขยายตัวดีหรืออาจดีกว่าคาด (KTBST คาดกำไรตลาดปีนี้ขยายตัว 5.6% และปีหน้า 11.1% ) ตัวแปรต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วเป็นบวกต่อตลาด ประธาน Fed ยังส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวดี ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดในช่วงต่อจากนี้ คือ กฎหมายภาษีและการเลือกประธาน Fed คนใหม่ ของสหรัฐฯ ทางออกของปัญหาเกาหลีเหนือ

  บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดว่า SET จะแกว่งตัว Sideways พักฐานในระยะสั้นหลังจากที่ปรับตัวขึ้นแรงวานนี้ โดยตลาดต้องจับตาผลการดำเนินงานกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มประกาศอีกครั้งวันนี้และจะหนาแน่นขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งภาพรวมเรามองว่าไม่น่าจะมีเซอร์ไพรส์ในทางลบ ส่วนกลุ่มพลังงานคาดว่ายังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ขยับปรับขึ้นต่อ เรายังมองว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวขึ้นทำ High ใหม่ได้ต่อเนื่องในระยะถัดไปโดยมีแรงหนุนจากกระแสเงินทุนที่ไหลเข้า