หนุนโดยแรงซื้อสถาบันในประเทศจากเก็งกำไรงบ Q3/60 และทิศทางของตัวเลข ศก.ช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีน่าจะเร่งตัวขึ้น และนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุม ECB ที่ยังดูนโยบายทางการเงินค่อนข้างผ่อนคลาย ประเมินแนวรับ 1,695 จุด แนวต้าน 1,720 จุด

  *ภาวะตลาดหุ้นไทย

  วันพุธที่ผ่านมา (25 ต.ค.60) SET ปิดที่ 1,708.8 จุด (+7.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 4.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนชาติกลับมาขายหุ้นไทยอีกครั้งที่ 1,743 ลบ. 

  *ภาวะตลาดหุ้น-น้ำมันสหรัฐ

  - ดาวโจนส์ปิดบวก 71.40 จุด รับผลประกอบการบ.สหรัฐฯ สดใส - สภาคองเกรทไฟเขียวงบประมาณปูทางปฎิรูปภาษี
  ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ 23,400.86 จุด เพิ่มขึ้น 71.40 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,560.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.13% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,556.77 จุด ลดลง 7.12 จุด หรือ -0.11%
  - ราคาน้ำมันดิบไลท์ที่ตลาดนิวยอร์ก วันที่ 26 ต.ค. 60 ปิดที่ระดับ 52.64 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 46 เซ็นต์ หรือ 0.88%

  *มุมมองโบรกฯ เช้านี้

  บล.เคจีไอ คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อหนุนโดยแรงซื้อจากฝั่งสถาบันในประเทศที่น่าจะต่อเนื่อง ตามธีมเก็งกำไรงบ Q3/60 และทิศทางของตัวเลขเศรษฐกิจช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีน่าจะเร่งตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ฟันด์โฟลว์น่าจะชะลอ/อยู่ฝั่งขายสุทธิต่อไปในช่วงสั้น จำกัดอัพไซด์ของดัชนีฯ ทั้งนี้ โฟลว์ต่างชาติอาจชะลอบ้างหลังค่าเงินบาทอ่อนลงตั้งแต่เมื่อวานเย็นต่อเนื่องเช้าวันนี้ เนื่องจาก ธ.กลางยุโรป (ECB) ประกาศลดระดับของมาตรการ QE ช้ากว่าที่ consensus ประเมิน โดยตั้งแต่เดือน ม.ค. 2561 ทาง ECB จะลดการซื้อตราสารเหลือ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากปัจจุบัน 6 หมื่นล้านยูโร และจะคงระดับการซื้อตราสารที่ 3 หมื่นล้านฯ ไปถึง ก.ย. 2561 หรือนานกว่านั้น ซึ่งถือว่านานกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ค่าเงินยูโรร่วงและดอลล่าร์ฯ รีบาวด์แรง
  ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญถัดไปได้แก่การประกาศชื่อประธาน ธ.กลางสหรัฐฯ คนใหม่ ในวันที่ 3 พ.ย. โดยหากอิงสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ขณะนี้เหลือแคนดิเดตเพียง 2 คน ได้แก่ i) นายเจโรม พาวเวล กรรมการเฟดชุดปัจจุบัน และ ii) นายจอห์น เทย์เลอร์ นักวิชาการจาก ม.สแตนฟอร์ด เบื้องต้นคาดว่านายพาวเวลมีโอกาสสูงกว่า และในกรณีดังกล่าวน่าจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นโลก เนื่องจากเขามีแนวนโยบายที่คล้ายกับประธานเฟดคนปัจจุบัน ด้านปัจจัยภายใน ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ย. 2560 ซึ่งจะรายงานในวันที่ 30-31 ต.ค. นี้ 
  บล.ฟินันเซียไซรัส คาดว่า SET จะยังคงแกว่งตัวในแดนบวกได้โดยนักลงทุนตอบรับในเชิงบวกต่อผลการประชุม ECB ที่ยังดูนโยบายทางการเงินค่อนข้างผ่อนคลาย ขณะที่สภาผู้แทนฯสหรัฐฯเห็นชอบร่างงบประมาณปี 2018 ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการบรรลุแผนปฏิรูปภาษีของทรัมป์ อย่างไรก็ตามตลาดยังต้องจับตาประเด็นสำคัญคือการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธาน FED คนใหม่ (ล่าสุดมีรายงานว่านางเยลเลนหลุดโผแล้ว) ขณะที่บริษัทจดทะเบียนกลุ่ม Real Sector จะเริ่มกลับมาประกาศผลประกอบการ 3Q17 อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
  บล.โกลเบล็ก ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี การที่ ECB ต่ออายุ QE รวมทั้งราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่มีปัจจัยลบกดดันจาก fund flow ที่ยังผันผวน คาดวันนี้ SET จะผันผวนในกรอบ 1,695-1,720 จุด โดยแนะนำขายทำกำไรเมื่อ SET ปรับตัวขึ้น