ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน กระแสเงินทุนต่างชาติดูเป็นลบในช่วงนี้ (06/11/60)


 กลยุทธ์วันนี้

          SELECTIVE BUY

Smart Pick
1. สะสม MINT : ราคาปิด 43.75 บาท ราคาเหมาะสม 52.50 บาท 
          a) จะรายงานงบ 3Q60 ในวันที่ 13 พ.ย. คาดกำไรปกติเติบโต +16% YoY และ +42% QoQ เป็น 1.04 พันล้านบาท จากแรงหนุนของโรงแรมในต่างประเทศที่เข้าสู่ High Season และเสร็จสิ้นการปรับปรุงโรงแรม Tivoli ในโปรตุเกส ส่งผลให้ REVPAR +8% YoY 
          b) แนวโน้มผลประกอบการ 4Q60 จะขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2560 เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในประเทศเข้าสู่ High Season และภาคบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนธุรกิจอาหารให้ SSSG พลิกกลับเป็นบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส 
          c) ผ่านพ้นช่วงการใช้สิทธิแปลงสภาพ MINT-W5 แล้วในวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 36.364 บาท จึงเชื่อว่าจะหมดแรงกดดันจากการขายหุ้นแม่เพื่อนำเงินไปแปลงสภาพ Warrant และส่งผลให้หุ้น MINT มีโอกาสกลับมา Outperform ตลาดได้ เนื่องจากยัง Laggard โดย YTD เพิ่มขึ้น +22.4% เทียบกับ ERW +61.1%

2. สะสม PTTEP : ราคาปิด 89.00 บาท ราคาเหมาะสม 108.00 บาท 
          a) Yuanta คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจะ Outperform ตลาด จาก Sentiment บวก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ BRENT และ NYMEX ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดรอบ 27 เดือน เนื่องจากคาดว่าการประชุม OPEC ในวันที่ 30 พ.ย.จะขยายมาตรการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจากที่จะสิ้นสุดลงใน มี.ค.2561
          b) ผลประกอบการ 3Q60 ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จากการตั้งสำรองโครงการ Oil Sands อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากำไรปกติยังขยายตัวได้ดีที่ 9.1 พันล้านบาท +108% YoY และ +26% QoQ และคาดว่ากำไรปกติ 4Q60 จะเติบโต QoQ จากราคาน้ำมันดิบดูไบ 4QTD เพิ่มขึ้นเป็น US$55/barrel จาก 3Q60 ที่ US$50.6/barrel 
          c) ราคาหุ้น Laggard สะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว โดย YTD หุ้น PTTEP -7.5% เทียบกับ SET ENERGY +12.8% และ SET INDEX +10.2% และมี Valuation ที่ถูก ซื้อขายระดับ PER2561 เพียง 8.4 เท่า

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
          วันศุกร์ที่ผ่านมา SET INDEX ลงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 1700 จุด และยังไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ปิดที่ 1701.47 จุด ปรับตัวลดลงเพียง 0.46 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 5.2 หมื่นล้านบาท ด้านกระแสเงินทุน นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันอีกราว 2.3 พันล้านบาท รวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท สวนทางกับสถาบันในประเทศที่ซื้อสุทธิราว 1 พันล้านบาท ด้านตลาดฟิวเจอร์ส นักลงทุนต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ 4.7 พันสัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Short สุทธิราว 4 หมื่นสัญญา สวนทางกับสถาบันในประเทศและบัญชี บล. ที่มีสถานะ Long สุทธิ 649 สัญญา ส่งผลให้ QTD มีสถานะ Long สุทธิไปแล้วราว 2.5 หมื่นสัญญา

กลยุทธ์วันนี้
          กระแสเงินทุนต่างชาติดูเป็นลบในช่วงนี้ โดยวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายทั้งในตลาดหุ้นและตลาด    ตราสารหนี้ พร้อมกับ Short สุทธิในตลาดฟิวเจอร์สอีก 4.7 พันสัญญา อย่างไรก็ดี เรามองว่า SET INDEX มี  Downside จำกัด แนวรับบริเวณ 1680 จุดจะทำงานได้ดี สนับสนุนด้วยกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมีที่ได้อานิสงค์เชิงบวกจากราคาน้ำมันดิบขาขึ้น ประเมินกรอบ SET INDEX วันนี้ 1690-1710 จุด
          ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดแรงงาน ซึ่งอัตราการว่างงานลดลงจาก 4.2% เหลือ 4.1% ด้านการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ขยายตัว 2.61 แสนตำแหน่งในเดือน ต.ค. แม้ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.13 แสนตำแหน่ง แต่ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือน ก.ย.ขึ้น จากเดิม ลดลง 3.3 หมื่นตำแหน่ง เป็น เพิ่มขึ้น 1.8 หมื่นตำแหน่ง ทั้งนี้ติดตามท่าทีของผู้นำสหรัฐฯ กับการเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าระหว่างประเทศกับเอเชีย
          เราแนะนำ 2 กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ คือ (1) เก็งกำไรหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเด่น (Commodity Plays) และ (2) เก็งกำไรผลประกอบการ 3Q60 (Earnings Plays)

ปัจจัยสำคัญวันนี้

  • สหรัฐฯรายงานอัตราการว่างงาน เดือน ต.ค.ลดลงเหลือ 4.1% ดีกว่าที่ตลาดคาดและเดือนก่อนหน้าที่ 4.2% แต่การจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 2.6 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 3.1 แสนตำแหน่ง
  • ปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯลดลงอีก 8 แท่น เหลือ 729 แท่น
  • เกิดเหตุมือปืนสังหารประชาชนในโบสถ์ที่รัฐเท๊กซัส เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 26 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
  • หุ้น IPO เข้าซื้อขายวันแรก 2 บริษัท ในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ADB (9 พ.ย.) และ RSP (10 พ.ย.)
  • ติดตามการรายงานการนำเข้า ส่งออก จีน และการประชุม กนง. วันที่ 8 พ.ย.
  • ติดตามการรายงานเงินเฟ้อจีน วันที่ 9 พ.ย. ตลาดคาดขยายตัว 1.8%YoY
  • Trump เดินทางเยือนเอเชีย 5 ประเทศ ในวันที่ 3-15 พ.ย. 60

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 06 พ.ย. 2560 เวลา : 12:26:04

25-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 25, 2024, 9:43 pm