ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน การปรับตัวลงของราคาหุ้นรุนแรงมาก(06/12/60)


 Today Selections   >>  ANAN, RS, TMB

Stock          S          R          Comment
ANAN         5.90        6.20        กำไรส่วนแบ่งจาก JV หนุนกำไรโตแซงกลุ่ม
RS          23.00       24.50        เล็งย้ายเทรดจากหมวดธุรกิจสื่อไปอยู่พาณิชย์ เพิ่ม PE Trade
TMB          2.88        2.96        ตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มรายได้เท่าตัว

More on PRM
          PRM : ราคาหุ้นปรับตัวลงแรงกว่า 10% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดเกิดจากสาเหตุดังนี้
          1) แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/60 ดีขึ้น QoQ ตามฤดูกาล แต่อาจไม่ดีเท่ากับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า เนื่องจากภาคใต้เจอปัจจัยเรื่องน้ำท่วม
          2) Utilization rate ของเรือยังไม่เต็มลำ และยังต้องเจรจากับลูกค้าอยู่ ดังนั้นอัตราการเติบโตแบบโดดเด่นอาจต้องรอในช่วงไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป
          3) บริษัทเลื่อนการรับเรือ Aframax เพราะแนวโน้มยังชะลอตัว โดยจะไปรับเรือในปีหน้าแทน
          มุมมองของเรา : มองการปรับตัวลงของราคาหุ้นนั้นรุนแรงมากกว่าปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไป คาดเกิดจากการ Trigger sell ของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่บางส่วน โดยเรากำลังจัดทำ Scenario เพื่อดูว่าหาก Utilization rate ของเรืออยู่ที่ประมาณ 50-75% ไปจนตลอดทั้งปีหน้า และไม่มีการรับเรือใหม่เพิ่มเติม จะส่งผลกระทบต่อประมาณการของเราและราคาเป้าหมายอย่างไร เบื้องต้นยังคงแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 16.20 บาทเช่นเดิม
          ตลท.และ FTSE Russell ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 18 ธันวาคมเป็นต้นไปสรุปได้ดังนี้
          1) ดัชนี FTSE SET Large Cap Index มีหุ้นเข้าใหม่ได้แก่ EA
          2) ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มีหุ้นเข้าใหม่ได้แก่ BGRIM, ORI, PRM, RATCH, RS, TOA
          3) ดัชนี FTSE SET Shariah Index มีหุ้นเข้าใหม่ได้แก่ AIT, AMARIN, BAFS, EKH, FN, GGC, HFT, LST, PRM, SEAFCO, SRICHA, TOA, TPIPP, UVAN
          มองเป็น Sentiment เชิงบวกเล็กน้อยต่อหุ้นในกลุ่มข้างต้น ซึ่งมีหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของเราและที่ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ตามปัจจัยพื้นฐานได้แก่ PRM (ราคาเป้าหมายที่ 16.20 บาท), RATCH (61), SEAFCO (9.50), TPIPP (7.80)
          กลยุทธ์การลงทุน : สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำซื้อขายตามกรอบแนวรับและแนวต้านที่ 1670-1680 และ 1730-1740 จุด ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว หากดัชนีย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ ให้ใช้เป็นจุดสะสมหุ้นเพื่อถือครองไปขายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้าได้ สำหรับกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนหากดัชนีปรับย่อมาที่   แนวรับได้แก่
          1) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ GPSC, TPIPP, WHAUP
          2) กลุ่มโรงกลั่น ได้แก่ BCP, IRPC, SPRC
          3) กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ ได้แก่ PRM

          แนวรับ  1,685  แนวต้าน 1,713

Today's Event

  • ECF ลูกหุ้นเข้า 20,255,666 หุ้น
  • GULF เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (2,133mn sh @ Bt.45) หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค

บันทึกโดย : วันที่ : 06 ธ.ค. 2560 เวลา : 09:48:59

23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 11:12 pm