สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -8.65 จุด ขายล็อกกำไรบ่าย ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น

  SET แกว่ง +/- สลับกันในกรอบ 1801-15 ยุติการรีบาวด์ 3 วันติดต่อกัน วอลุ่มซื้อขายน้อย 4.4 หมื่นลบ. ตลาดขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น นลท.รอความชัดเจนของทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาเทรดหลังหยุดวันจันทร์ และหุ้นภูมิภาคหยุดตรุษจีน ต่างชาติขายสุทธิ 1.99 พันลบ. 13 วันติด แต่ Long S50 Futures 1,739 สัญญา 6 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ซึมลงแต่ไม่มาก PTT แตกพาร์-ปันผลช่วยต้านหุ้นโลกผันผวน
  หุ้นโลกเมื่อวาน (20 ก.พ.) ปิดแตกต่างกัน โดยหุ้นยุโรปปรับขึ้นจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี แต่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง (DJ -254 จุด ยุติการปรับขึ้น 6 วันติดต่อกัน) จากแรงขายกระหน่ำหุ้น Walmart กดดันราคาร่วงมากกว่า 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงแรงสุดนับตั้งแต่ปี 1988 ผิดหวังผลประกอบการต่ำกว่าคาด รวมทั้งตลาดมีความกังวลกับการออกพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่มูลค่ารวมสูงถึง 2.58 แสนล้านดอลลาร์ฯ ในสัปดาห์นี้ที่อาจหนุนให้ Bond Yield ปรับตัวสูงขึ้นอีกจากปัจจุบันที่ทรงตัวที่ 2.89% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 4 ปี ด้าน VIX Index ซึ่งสะท้อนความกลัวของตลาดปรับตัวขึ้น 2 วันติด มาที่ระดับ 20.6 จุด  มองหุ้นโลกเริ่มกลับมาผันผวนอีกครั้ง น่าจะกดดัน SET วันนี้แกว่งไซด์เวย์ดาวน์ อย่างไรก็ดี การประกาศงบที่ออกมาดีกว่าคาดของหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว อาทิ PTT, IVL, SPALI โดยเฉพาะหุ้น PTT ที่ประกาศแตกพาร์จาก 10 บ. เป็น 1 บ. และจ่ายปันผลดี น่าจะช่วยต้านทานหุ้นโลกผันผวนได้ ทำให้อ่อนตัวลงไม่มาก และลุ้นรีบาวด์ระหว่างวันหากตัวเลขการค้าของไทยที่จะเปิดเผยวันนี้ออกมาดี ตลาดคาดส่งออก ม.ค. จะโต +11.0% vs +8.6% ในเดือนก่อนหน้า และติดตามตัวเลข PMI ภาคผลิตโลกเบื้องต้นใน ก.พ. ตลาดคาดทรงตัวถึงปรับลงเล็กน้อย แนวรับ 1798-1800, 1790+/- แนวต้าน 1815-20

กลยุทธ์การลงทุน : หาจังหวะทยอยสะสม-ซื้อคืน, Selective Buy 
  มองตลาดยังมีแนวโน้มแกว่งผันผวนเพื่อสร้างฐานอย่างน้อยจนถึงสิ้น ก.พ. มอง SET จะดูดีขึ้นหากปิดเหนือ 1810 ได้ และน่าจะยืนยันสิ้นสุดการพักฐานเมื่อปิดเหนือ 1820 ยังแนะนำหาจังหวะทยอยสะสม-ซื้อคืนช่วงอ่อนตัว เน้นหุ้นงบดี-ปันผลดี-มีสตอรี่ดี อย่างไรก็ดี หากภาวะตลาดผิดคาด ให้ใช้จุด Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1780

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick PTT – ประกาศกำไร 4Q17 ที่ 3.5 หมื่นลบ. +58% QoQ และ +91% YoY ดีกว่าคาดเราและตลาดคาด 5-8% จากธุรกิจก๊าซและกำไรบ.ย่อยที่ดีกว่าคาด, มองแนวโน้มกำไร 1Q18F ยังดีต่อเนื่อง, บ.ประกาศแตกพาร์จาก 10 บ. เป็น 1 บ. รวมทั้งจ่ายปันผลงวดสุดท้ายอีก 12 บ./หุ้น คิดเป็น Div. Yield 2.5% XD 6 มี.ค., เป้าพื้นฐาน 492 บ. / ไม่มีหุ้นไทยตัวใดเข้า-ออกการทบทวนดัชนี MSCI รอบนี้ (มีผล 1 มี.ค.) / หุ้นงบดี ราคามี upside 10% ขึ้นไป ชอบ ASAP, BEAUTY, BPP, BR, COM7, DRT, HANA, HARN, IHL, JWD, ORI, ROJNA, SEAFCO, TPIPP / หุ้นปันผลดี (Remaining Div. Yield > 3%) ชอบ AP, ASK, ASP, BPP, BR, FTE, GLOW, HARN, IRPC, KKP, KTB, NYT, ROJNA, SIRI, SPRC, TMT, UVAN ส่วนหุ้นที่อยู่นอกเหนือจากการวิเคราะห์ของเราและตลาด แต่การประเมินเบื้องต้นของเราคาดจะเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลดี (Div. Yield >= 5%) ASIMAR, ESTAR, MSC, PDI, PL, PRIN / หุ้นอิงการลงทุนภาครัฐ-เร่งผลักดัน EEC และลงทุนเอกชนฟื้นตัวตาม – นิคม AMATA, ROJNA, WHA รับเหมา – CK, STEC, UNIQ, SEAFCO / แบงก์ – BBL, KBANK / หุ้นอิงศก.และการบริโภคในปท. รับการเลือกตั้ง – BEAUTY, COM7, PLANB, VGI / หุ้นมีอนาคต กำไรเติบโตสูง – ASAP, JWD, MINT, ORI, PRM, TPIPP
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ COM7 (เป้าสั้น 17.5 บ.), PDI (24.1 บ.) / ถือ HANA (46.5 บ.), SEAFCO (10.3 บ.) / ถึงเป้าขายทำกำไร VGI (+7.2%) / ขายตัดขาดทุน ROJNA (-4.6%)
• หุ้นเด่น ก.พ. (Smart Tactics) COM7, NYT, PDI, PLANB, ROJNA, SIRI, TPIPP

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research