สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -18.07 จุด สงครามค่าฟีแบงก์-การเมืองในปท.-กบง.

  SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1756-89 ปัจจัยในปท.กดดัน ทั้งสงครามค่าฟีแบงก์, สนช.เตรียมยื่นศาลรธน.วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.การเลือกตั้ง ส.ส.ขัดรธน.หรือไม่ และกังวลการประชุมกบง.ต้นเดือนหน้าจะปรับโครงสร้างราคาน้ำมันที่อาจกระทบหุ้นพลังงาน ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.69 พันลบ. และ Short S50 Futures 26,529 สัญญา 4 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ลุ้นรีบาวด์ตาม Sentiment หุ้นตปท.และราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว
  หุ้นโลกเมื่อวาน (29 มี.ค.) ฟื้นตัวราว 1% จากหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เริ่มรีบาวด์ ทั้ง Facebook, Apple, Netflix, Alphabet และ Microsoft ซึ่งถือเป็นวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค. และสิ้นสุดไตรมาส 1/2018 เนื่องจากวันศุกร์ที่ 30 มี.ค. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเชียหลายตลาดจะปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday  ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI +56 เซนต์ หรือ +0.9% มาที่ 64.94$/bbl ยุติลง 3 วันติด หลังกลุ่ม OPEC และรัสเซียให้คำมั่นว่าจะคงกำลังการผลิตน้ำมันถึงสิ้นปีนี้  มอง SET มีโอกาสรีบาวด์ตาม Sentiment หุ้นตปท.และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ในปัจจุบันน่าจะสะท้อนความกังวลสงครามค่าฟีไปพอสมควรแล้ว ผสานข่าวดีไทยได้ต่ออายุ GSP จากสหรัฐฯ จนถึงสิ้นปี 2020 แนวรับ 1756-60 (เชื่อยังเหนียวในระยะสั้น), 1750 แนวต้าน 1775-80 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / DDD, HUMAN ติด Cash Balance สุดท้ายถึงวันนี้ (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)

กลยุทธ์การลงทุน : Wait&See ถือเงินสด > ถือหุ้น, เด้งเป็นจังหวะขายลดพอร์ต
  กลยุทธ์หลัก แนะอยู่ในโหมด Wait & See ต่อไป และยังถือเงินสดในสัดส่วนมากกว่าถือหุ้น หาก SET ปิดต่ำกว่า 1760 จะยืนยันภาพตลาดเลือกข้างเป็นแนวโน้มขาลงในไตรมาส 2 มีโอกาสแกว่งซิกแซกลงทดสอบ 1700-1720 / SET จะกลับมาดูดีขึ้นต้องกลับมายืน 1800 ให้ได้ก่อน มองการรีบาวด์เป็นจังหวะขายลดพอร์ต-ถือเงินสดเพิ่ม ส่วนนลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูงยังอยากเก็งกำไร ต้องมีวินัยการลงทุนสูง-เข้าออกไว-เน้นจบในวัน

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick TPIPP – ราคาหุ้นน่าจะถูกปลดล็อกหลัง บ.เพิ่งแจ้งกำหนดการ COD โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ 70 MW และความร้อนทิ้ง 30 MW รวม 100 MW โดยจะเริ่มขายไฟให้กฟผ. 5 เม.ย. ได้ Adder 3.5 บ. เป็นเวลา 7 ปี หนุนกำไรปีนี้คาดโต 63% เป็น 4.2 พันลบ. ส่งผลให้ PER ถูกที่สุดในกลุ่มพลังงานทดแทนที่ 13.7x ปีนี้ และจะลดลงเหลือ 10.8x ปีหน้า, ปันผลเฉลี่ยปีละ 6%, เป้าพื้นฐาน 8.45 บ. /  ส่งออกไทย ก.พ. ขยายตัวดีกว่าคาด ชอบหุ้นเกี่ยวข้องธุรกิจยานยนต์ AH, SAT, NYT / หุ้นที่ตลาดมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรและเป้าราคาหุ้นขึ้น – AH, AJ, SAT, SEAFCO, TOA, TVO / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – AEONTS (งบปีสิ้นสุด ก.พ.), INGRS (งบปีสิ้นสุด ม.ค.) / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing ช่วงปลายเดือนนี้ เด่น BANPU, EGCO, CPN, ERW, GLOBAL, MINT, PTTEP, SGP / หุ้นได้ประโยชน์ EEC ชอบ CK, STEC, SEAFCO, AMATA, ROJNA, WHA / Summer Play – SNC, SAPPE, TACC / หุ้นปันผลดี (Div. Yield รอบนี้ > 3%) ชอบ  AIT, AP, ASEFA, ESTAR, FTE, GLOW, KKP, KTB, LH, MCS, NYT, PDI, PL, QH, ROJNA, SC, SPRC, TKS
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ BIG (เป้าสั้น 3.2 บ.), CPN (82.5 บ.), SF (9.5 บ.) / ถือ ADVANC (220 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว HMPRO (-2.7%) / ขายตัดขาดทุน SCB (-1.6%), TVO (-5.3%)
• หุ้นเด่น มี.ค. (Smart Tactics) AEONTS, ANAN, BBL, EGCO, LH, PTTGC, SCB, SCC

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research