สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -6.24 จุด Bond Yield ฟื้นตัวแตะ 3%กดดัน

          SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1759-74 ยุติรีบาวด์ 2 วัน ถูกกดดันจาก 10Y US Bond Yield ฟื้นตัวขึ้นแตะ 3% กดดัน และเงินดอลลาร์ฯ พลิกกลับมาแข็งค่า นอกจากนี้ MSCI ประกาศหุ้นเข้า-ออกรอบใหม่ผิดจากที่คาด ต่างชาติขายสุทธิ 1.33 พันลบ. 2 วันติด และพลิก Short S50 Futures เล็กน้อย 1,273 สัญญา

ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลง Bond Yield พุ่งสูงสุดใหม่นับตั้งแต่กลางปี 2011
          หุ้นโลกเมื่อวาน (15 พ.ค.) ปรับตัวลง หลัง Home Depot รายงานยอดขายน้อยกว่าตลาดคาด และ 10Y US Bond Yield พุ่งแตะระดับ 3.09% ก่อนที่จะปิดตลาดที่ 3.06% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่นับตั้งแต่กลางปี 2011 ด้านราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้นเล็กน้อย จากเหตุการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทั้งการประท้วงต่อต้านอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ และความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ รอบใหม่  มอง SET มีโอกาสอ่อนตัวลง/ลบกรอบแคบ ถูกกดดันจาก Bond Yield และค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง สูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี และ 5 เดือนตามลำดับ โดยตลาดประเมินความเป็นไปได้มากขึ้นที่ FED จะปรับขึ้นดบ.ในปีนี้ทั้งหมด 4 ครั้งจากเดิม 3 ครั้ง โดยโอกาสที่จะขึ้นดบ.ใน ธ.ค. ปีนี้ขึ้นมาที่ระดับ 51% ส่วน GDP Q1 ญี่ปุ่นเช้านี้หดตัว -0.2% QoQ แย่กว่าตลาดคาดไม่เปลี่ยนแปลงที่ 0.0% แนะนำติดตามการประชุม กนง. คาดจะคงดบ. 1.5% แนวรับ 1760, 1750 แนวต้าน 1775

กลยุทธ์การลงทุน : ยืน 1775 ได้ เปิดเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ / เก็งกำไรเป็นรายตัว
          หาก SET รีบาวด์ต่อเนื่องจนสามารถปิดเหนือ 1775 มองเป็นจังหวะในเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ เล็งเป้าขึ้นทดสอบ 1790-1800 / สำหรับนลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว เข้า-ออกไว ไม่หวังส่วนต่างราคามาก

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick LH  - ประกาศกำไร 1Q18 ที่ 2.47 พันลบ. +26% QoQ และ +39% YoY ดีกว่าเราและตลาดคาด 17% มองแนวโน้มกำไร 2Q18 ยังดีต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้ยอดขายโครงการใหม่ ๆ และอัตราส่วนกำไรที่ดีขึ้น นอกจากนี้จะมีการรับรู้กำไรจากการขายอพาร์ทเม้นท์ในสหรัฐฯ ด้วย, เข้า MSCI Global Standard มีผล 1 มิ.ย. เป็นต้นไป, เป้าพื้นฐาน 13.1 บ. / งบในรอบ 24 ชม. ดีกว่าตลาดคาด - AMATA, BA, BDMS, BRR, DEMCO, SAMTEL, STANLY, TRUE, TTA  ตามตลาดคาด - AOT, BCH, CK, PLAT, SAMART, SDC, SPA, SYNTEC  แย่กว่าตลาดคาด - BR, CCET, GUNKUL, RATCH, ROJNA, SAWAD, SPALI, TTCL  / ROJNA  จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 200 ลบ. จำนวน 38 ล้านหุ้น ตั้งแต่ 1 มิ.ย. - 30 พ.ย. / MSCI ประกาศทบทวนหุ้น Global Standard Index เข้า 1 ตัว - LH  ออก 2 ตัว - KCE, SCC-F Small Cap Index เข้า 6 ตัว - DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL  ออก 9 ตัว - BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE  / โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ. EEC มีผลบังคับใช้วันนี้ หุ้นได้ประโยชน์ ชอบ CK, STEC, UNIQ, SEAFCO, AMATA, ROJNA, WHA  / เงินบาทเริ่มอ่อนค่าช่วยกระตุ้นบรรยากาศหุ้นส่งออก-ท่องเที่ยว ชอบ DELTA, HANA, JWD, SAPPE, ERW, MINT  / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า - BLAND, BTS  (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) /TPIPL  จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันลบ. จำนวน 1,009 ล้านหุ้น รอประชุมผถห.อนุมัติ 25 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มซื้อหุ้นคืน 16 ก.ค. - 15 ม.ค. / การฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตฯ ยานยนต์ AH, SAT, NYT
• หุ้น Weekly GURU  ซื้อ BEAUTY  (เป้าสั้น 22.4 บ.), PYLON  (15.6 บ.), WHA  (4.26 บ.) / ถือ GPSC  (83 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว COM7  (+5.2%) / ขายตัดขาดทุน BJC  (-3.2%), THAI (-7.4%)
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEAUTY, BTS, CPN, HMPRO, PLANB, QH

ปัจจัยติดตาม
วันที่           ปท.           เหตุการณ์
16 พ.ค.    TH, JP, CH    ประชุม BOT, ผลผลิตภาคอุตฯ และอัตราใช้กำลังผลิตญี่ปุ่นใน มี.ค. (สุดท้าย), ราคาอสังหาฯ จีนใน เม.ย.
                 EU, US        ดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรปใน เม.ย., เงินทุนไหลเข้าและปริมาณต่างชาติซื้อพันธบัตรสหรัฐฯใน มี.ค.
                    US           การเริ่ม-อนุญาตสร้างบ้านสหรัฐฯ ใน เม.ย., ผลผลิตภาคอุตฯ และอัตราใช้กำลังผลิตสหรัฐฯใน เม.ย.
17 พ.ค.       JP, US      คำสั่งซื้อเครื่องจักรญี่ปุ่นในมี.ค., ผลสำรวจธุรกิจ (Philadelphia)ใน พ.ค., ดัชนีชี้นำศก.สหรัฐฯใน เม.ย.
18-24 พ.ค.   TH          ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของไทยในเดือน เม.ย.
 ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research