สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +0.58 จุด หุ้นเครือ PTT ช่วยประคองตลาดปิดแดนบวก

  SET แกว่ง +/- สลับกันในกรอบแคบ 1745-57 วอลุ่มหนาแน่น 7.1 หมื่นลบ. แม้ภาพรวมตลาดยังถูกกดดันจาก 10Y US Bond Yield ที่ขึ้นแตะระดับ 3.1% สูงสุดใหม่รอบ 7 ปี แต่หุ้นเครือ PTT ปรับขึ้น มีผลต่อ SET รวม +7 จุด ช่วยดันตลาดปิดบวก ต่างชาติพลิกขายสุทธิ 1.27 พันลบ. แต่พลิก Long S50 Futures 2,521 สัญญา ยุติ Short 2 วัน

ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์กรอบแคบ แม้ Yield พุ่งกดดัน แต่ยังมีพลังงานช่วย
  หุ้นโลกเมื่อวาน (17 พ.ค.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปรับขึ้นจากหุ้นเกี่ยวข้องราคาน้ำมัน-โภคภัณฑ์ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันและหุ้นค้าปลีกออนไลน์ “Ocado” ประกาศพันธมิตรทางธุรกิจ ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง หลังปธน.ทรัมป์ระบุไม่มั่นใจว่าการเจาจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะประสบผลสำเร็จหรือไม่  มอง SET แกว่งไซด์เวย์กรอบแคบ แม้กระแสเงินทุนตปท.ยังมีแนวโน้มไหลออก หลัง 10Y US Bond Yield พุ่งทะลุ 3.1% ไปแล้ว โดยล่าสุดอยู่ที่ 3.12% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 7 ปี แต่กลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นในเครือ PTT น่าจะช่วยประคับประคองตลาดคล้ายกับเมื่อวาน จากราคาน้ำมันดิบ Brent ขึ้นต่อเนื่อง แตะระดับ 80$/bbl ครั้งแรกนับตั้งแต่ พ.ย. 2014 ประกอบกับแนวรับที่บริเวณ 1745-50 ยังทำให้หน้าที่ได้ดี ส่วนแนวต้าน 1760, 1765 ตามลำดับ อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้ / TITLE ติด Cash Balance วันสุดท้ายถึง 18 พ.ค. (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)

กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูงเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว
  แนะ Wait&See ยังไม่น่าเร่งรีบเพิ่มพอร์ต รอคำวินิจฉัยจากศาลรธน.และความชัดเจนของ Dot Plot ก่อน / หาก SET รีบาวด์ต้องปิดเหนือ 1775 จึงมองอาจเป็นจังหวะในเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ แต่สำหรับนลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว เข้า-ออกไว ไม่หวังส่วนต่างราคามาก แต่หาก SET ปิดต่ำกว่า 1745 ควรหยุดเช่นกัน

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick PTT – ราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ขึ้นแตะ 80$/bbl คาดจะหนุนบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ในแง่ของการเทรดดิ้ง เรามองหุ้น PTT น่าสนใจจากราคายัง Laggard หุ้น PTTEP ที่ขึ้นทำจุดสูงใหม่ของปีนี้ไปแล้ว (PTT +30% vs PTTEP +47% YTD), คาดการนำ PTTOR เข้าตลาดต้นปีหน้าจะมีความคืบหน้าในช่วง Q3 จะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้น PTT ในอนาคต / RS ยังแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับประมาณการและเป้าพื้นฐานลงเป็น 30 บ. จากผลกระทบธุรกิจ MPC / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น - AH, BDMS, BLA, CHG, GOLD, PYLON, SAT / หุ้นคาดเข้า SET50 ชอบ BGRIM, RATCH / SET100 Index ชอบ ERW, PLANB, PRM, RS, THANI, VGI / พ.ร.บ.EEC มีผลบังคับใช้แล้วหนุนวงจรการลงทุนรอบใหม่ หุ้นได้ประโยชน์กลุ่มรับเหมา CK, UNIQ, SEAFCO, PYLON นิคมฯ AMATA, ROJNA, WHA / หุ้นได้ประโยชน์จากบาทอ่อน แนะนำ HANA, SKN, TVO / หุ้นรับอานิสงส์บอลโลก ชอบ BJC, HMPRO, TRUE / ROJNA จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 200 ลบ. จำนวน 38 ล้านหุ้น ตั้งแต่ 1 มิ.ย. – 30 พ.ย. / MSCI ประกาศทบทวนหุ้น Global Standard Index มีผล 1 มิ.ย. เข้า 1 ตัว - LH ออก 2 ตัว - KCE, SCC-F Small Cap Index เข้า 6 ตัว - DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL ออก 9 ตัว – BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – BLAND, BTS (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) / TPIPL จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันลบ. จำนวน 1,009 ล้านหุ้น รอประชุมผถห.อนุมัติ 25 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มซื้อหุ้นคืน 16 ก.ค. – 15 ม.ค. / การฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตฯ ยานยนต์ AH, SAT, NYT
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ BEAUTY (เป้าสั้น 22.4 บ.), PYLON (15.6 บ.), WHA (4.26 บ.) / ถือ GPSC (83 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว COM7 (+5.2%) / ขายตัดขาดทุน BJC (-3.2%), THAI (-7.4%)
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEAUTY, BTS, CPN, HMPRO, PLANB, QH

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research