Market Summary 21/05/2018

หุ้นแนะนำพิเศษ

GPSC Analyst Meeting (ราคาปิด 77.25 Bloomberg Consensus 68.72)

• โรงงานผลิตแบตเตอร์รี่ลิเทียมยังคงอยู่ในแผนโดยล่าสุดมีการออกแบบโรงงานแล้วเสร็จและกำลังอยู่ระหว่างการหาผู้รับเหมาภายในเดือนมิ.ย. 61 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมา 4/19 โดยกำลังการผลิตเฟสที่ 1 อยู่ที่ 100 MWH ซึ่งคาดว่าลูกค้ากลุ่มแรกจะอยู่ในเครือปตท1
• คาดปี 19 จะ COD โรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำลิกและโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีกำลังการผลิต 65MW และ 1,285 MW โดย GPSC ถือหุ้น 40% และ 25% ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำลังการผลิตของGPSC เพิ่มขึ้นจาก 1.53 GW สู่ 1.92 GW
• ความเห็น ผลประกอบการปี 18 มีโอกาสเติบโตจากการรับรู้รายได้จาก IRPC CP เฟส 2 เต็มปี และผลประกอบการปี 19 มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการรับรู้โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำลิกและโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี อีกทั้งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานแบตเตอร์รี่ช่วง 4Q19

Market View  :  การเมืองเบาๆ
หุ้นแนะนำพิเศษ : GPSC
หุ้นมีข่าว : TRUE ORI SAWAD
Technical  Insight : VGI  EPCO
  ภาวะตลาดหุ้นวานนี้ ทยอยปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังจากที่เปิดทำการสูง หลังสภาพัฒน์รายงาน GDP 1Q61 เติบโต 4.8% สงสุดในรอบ 20 ไตรมาส ส่วนสหรัฐฯและจีนยังระงับสงครามการค้าชั่วคราว กลุ่มหนุนหลักมาจาก BANK ENERG และ COM ส่วน TRANS ลบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ SET Index ปิดที่ 1,768.31 จุด (+14.14 จุด) Volume 4.72 หมื่นลบ. ทั้งนี้เป็น Foreign Net -2,199.26 ลบ.  TFEX Net +3,429 สัญญา ตราสารหนี้ -1,264.52ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย  
  +ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นหลังเห็นสัญญาณบวกในการเจรจาระหว่างอเมริกากับจีน ลดความเป็นไปได้ที่จะเปิดสงครามการค้าระหว่างกัน
  +ราคาน้ำมันขยับขึ้นจากการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรเวเนซุเอลารอบใหม่หลังประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ชนะการเลือกตั้ง
  +"ทรัมป์"เผยจีนให้สัญญาซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ หลังเจรจาการค้าสัปดาห์ที่แล้ว
  +สภาพัฒน์ ปรับคาดการณ์ GDP ปี 61 เป็นโต 4.2-4.7% หลัง Q1/61 โตพุ่ง 4.8% สูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส
  -FETCO เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง 22.90% มาอยู่ที่ 92.65 
  -เช้านี้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเตรียมเคลื่อนขบวนจากมธ.ไปทำเนียบฯ ทั้งนี้ ศาลปกครองกลางมีคำสั่งยกคำร้องในการขอคุ้มครองชั่วคราวของผู้ชุมนุม
  +/- Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD ขาย 1.01 แสนล้านบาท เงินบาทอยู่ที่ 32.17 บาท/USD
  ** จับตา 22 พ.ค.ครบรอบ 4 ปีของการรัฐประหารมีการชุมนุมเชิงสัญลักษณ์
  23 พ.ค. ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยร่างกฎหมายลูกเลือกตั้ง ส.ส.-ส.ว. 
  ภาวะตลาดหุ้นไทยได้ปัจจัยบวกจากกรณีข้อพิพาทการค้าสหรัฐและจีนคลี่คลายในทางที่ดี  ราคาน้ำมันขยับขึ้น ส่วนปัจจัยบวกในประเทศมาจากตัวเลข GDP ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส โดยมีปัจจัยลบจากปัจจัยการเมืองในประเทศ และ fund flow ที่ยังผันผวนต่อเนื่อง คาด SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,758-1,783 จุด
กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - STA TRUBB ราคายางพาราปรับตัวขึ้นสู่ 185เยน/กก. +3%WTD
  - หุ้นที่ Laggard ดัชนี CPF CK STEC UNIQ BJC
  - JUBILE ATP30 AGE XO SSP TPCH หุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโต 
  - BANPU ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นสู่ 107.2$/Ton +15% ในช่วง 19 วัน 
  - หุ้น EEC Play ได้แก่ WHA AMATA EASTW ATP30 ORI
  - กสทช. ยืดจ่ายทีวีดิจิทัลได้อีก 90 วันหลัง 23 พ.ค. 61 ประคองความกังวล Delay ม.44 บวกต่อ BEC WORK MONO RS

หุ้นมีข่าว  

• + TLUXE จะขายโรงไฟฟ้าความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น 15 โครงการเข้ากลุ่มกองทุน ,รุกลงทุนอสังหามิกซ์ยูสในเวียดนาม (ที่มา InfoQuest)
• ประเด็นบวกกลุ่มรับเหมา บอร์ด PPP เร่ง 3 โครงการภายใต้ Fast Track นำเสนอภายในปีนี้ รวมมูลค่าลงทุน 4.47 แสนลบ.ได้แก่ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายนครปฐม-ชะอำ 80,600 ล้านบาท, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-วงแหวนกาญจนาภิเษก 128,235 ล้านบาท และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ส่วนตะวันตกและตะวันออก 238,039 ล้านบาท (ที่มาInfoQuest)
• + TRUE (ราคาปิด 7.20 บาท Bloomberg Consensus 7.43 บาท)
• รายงานผลสำเร็จของการเข้าทำธุรกรรมกับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล (DIF) สำหรับสินทรัพย์ทั้งส่วนที่ 1 และ 2 ทำให้ TRUE มีรายได้เท่ากับ 1.29 หมื่นล้านบาท และ 5.52 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
• ความเห็น โดยจะเป็นผลให้ TRUE มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์งวดที่ 2 (ส่งมอบภายในวันที่ 17 พ.ค. 61) ราว 2.5 – 2.7 หมื่นล้านบาท ในงวด 2Q61 คิดเป็น EPS ราว 0.75 – 0.8 บาท แนะนำให้ “ซื้อเก็งกำไร”
• + ORI เดินหน้าร่วมทุน "โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์" ยักษ์อสังหาญี่ปุ่นเพิ่ม ขายหุ้นบริษัทย่อย 49% ลุยโครงการมิกซ์ยูส "ออริจิ้น 24" มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท โดยบริษัทย่อยจะรับรู้กำไรพิเศษ จำนวน 73.5 ล้านบาท  พร้อมแต่งตั้งอดีตผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย เพื่อปั้นธุรกิจ RECURRING INCOME เป็น TOP 3 ในวงการ (ที่มา ทันหุ้น)
• ประเด็นบวกกลุ่มแบงก์ : ความคืบหน้าของโครงการลงทุนขนาดใหญ่และความชัดเจนด้านกฏหมาย อาทิ คณะกรรมการ PPP เตรียมเดินหน้าโครงการ PPP Fast Track 3 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 446,874 ล้านบาท การที่พ.ร.บ.อีอีซีมีผลบังคับใช้ตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.
• (+/-) SAWAD แจง NPL เงินสำรอง Q2 กลับสู่ภาวะปกติเหลือ 3-4% ส่วน Coverage ratio ที่ปรับลงมาเหลือ 51% ก็จะเพิ่มขึ้นไปเป็น 50-90% หรือระดับปกติของ SAWAD คาเธ่ย์ ยูไนเต็ด แบงก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทก็ได้ยืนยันมาทางบริษัทว่ายังมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ไม่มีการขายหุ้น SAWAD ออกมาเพราะมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปัญหาช่วงสั้น ส่วนกลุ่มแก้วบุตตา เก็บหุ้น 12.4 ล้านหุ้น มูลค่า 458 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)