สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -7.60 จุด ทิ้ง PTT ห่วงรัฐแทรกแซงราคาขายน้ำมัน

  SET แกว่งอิงแดนลบในกรอบ 1754-71 โดยช่วงเช้าขยับขึ้นเล็กน้อยตาม Sentiment หุ้นโลกและราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น แต่หุ้น PTT ถูกเทขายกดดัชนีลบเกือบ 5 จุด ห่วงรัฐแทรกแซงราคาขายน้ำมัน หลังน้ำมันดีเซลใกล้ทะลุ 30 บ./ลิตร ต่างชาติขายสุทธิ 2.56 พันลบ. 4 วันติด และพลิก Short S50 Futures 5,741 สัญญา ยุติ Long 3 วัน

ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งซึมลงรอคำวินิจฉัยศาลฯ, น้ำมันย่อจากแรงขายทำกำไร
  หุ้นโลกเมื่อวาน (22 พ.ค.) ปิดสวนทางกัน หุ้นยุโรปปรับขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ หลังจีนจะลดภาษีนำเข้าลดรถยนต์และชิ้นส่วนจาก 25% เป็น 15% และ Bond Yield 10 ปีของอิตาลีย่อตัวเล็กน้อย หลังจากที่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับลง โดยดัชนี DJIA ร่วงเกือบ 200 จุด หลังปธน.ทรัมป์เผยยังไม่พอใจกับการเจรจาการค้ากับจีน และระบุว่าการประชุมร่วมกับผู้นำเกาหลีเหนือในช่วงกลางเดือนหน้าอาจไม่เกิดขึ้น ด้านราคาน้ำมัน WTI อ่อนตัวลง 0.2% มาที่ 72.13 $/bbl จากแรงขายทำกำไรระยะสั้น หลังราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง รอติดตามรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการจะเปิดเผยวันนี้ มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซึมลง ปัจจัยภายนอกเป็นลบเล็กน้อยจากความไม่แน่นอนของปธน.ทรัมป์ และเชื่อว่านลท.จะชะลอการลงทุนรอคำวินิจฉัยศาลรธน.ว่าร่างพ.ร.ป.ที่มา ส.ว.และการเลือกตั้ง ส.ส.จะขัดรธน.หรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์ของคำตัดสินจะมีส่วนสำคัญต่อการคาดหมายวันเลือกตั้งว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดของปีหน้า แนวรับ 1755, 1745-50 แนวต้าน 1770, 1775

กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูงเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว
  ตราบใดที่ SET ยังแกว่งไม่ต่ำกว่าระดับ 1745 นลท.ที่รับความเสี่ยงได้สูง ยังเลือกเก็งกำไรเป็นรายตัว ลงซื้อ-ขึ้นขาย แบบไม่หวังส่วนต่างราคามาก  สำหรับนลท.ที่ Wait&See ก่อนหน้านี้ ยังรอซื้อที่ต่ำ แต่หาก SET รีบาวด์จนปิดเหนือระดับ 1775 ได้ มองจะเป็นจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ เล็งเป้า SET ขึ้นทดสอบ 1790-1800

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick JWD – มองผลกระทบต่ออัตราส่วนกำไรขั้นต้นที่ลดลงจากการขายคลังห้องเย็นเข้ากอง REIT แค่เพียงปัจจัยระยะสั้น เนื่องจากจะมีการขยายพื้นที่เช่าคลังมาทดแทนทุกปี, คาดการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่อินโดนีเซีย และเวียดนาม จะเข้ามาช่วยเสริมรายได้อีกทาง, คาดดีล M&A ที่เวียดนามจะสรุปได้ใน 2H18, ราคาหุ้นปีนี้ปรับตัวลงมากกว่า 30% YTD ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐาน เป็นโอกาสลงทุน, เป้าพื้นฐาน 15.5 บ. / DCC-W1 เข้าเทรดวันนี้ – 2.61 พันล้านหน่วย, 1:1 @ 1.15 บ. อายุ 3 ปี, เราประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 1.11 บ. / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการขึ้น - AH, BDMS, BLA, CHG, GOLD, PYLON, SAT / หุ้นคาดเข้า SET50 ชอบ BGRIM, RATCH / SET100 ชอบ ERW, PLANB, PRM, RS, THANI, VGI / พ.ร.บ.EEC มีผลบังคับใช้แล้วหนุนวงจรลงทุนรอบใหม่ กลุ่มรับเหมา CK, UNIQ, SEAFCO, PYLON นิคมฯ AMATA, ROJNA, WHA / หุ้นรับอานิสงส์บอลโลก ชอบ BJC, HMPRO, TRUE / MSCI ประกาศทบทวนหุ้น Global Standard มีผล 1 มิ.ย. เข้า 1 ตัว - LH ออก 2 ตัว - KCE, SCC-F Small Cap เข้า 6 ตัว - DDD, KCE, MONO, PRM, THG, TPIPL ออก 9 ตัว – BIG, EASTW, FSMART, GL, KTC, LHFG, MALEE, SAMART, TSE / หุ้นเก็บตกปิดงบ-ปันผลช้า – BLAND, BTS (งบปีสิ้นสุด มี.ค.) / TPIPL จะซื้อหุ้นคืนวงเงิน 2.5 พันลบ. จำนวน 1,009 ล้านหุ้น รอประชุมผถห.อนุมัติ 25 มิ.ย.นี้ และจะเริ่มซื้อหุ้นคืน 16 ก.ค. – 15 ม.ค. / การฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตฯ ยานยนต์ AH, PCSGH, SAT, NYT
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ CK (เป้าสั้น 26.5 บ.), PCSGH (8.8 บ.), PTG (20.5 บ.) / ถือ GPSC (83 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว PYLON (-0.6%), WHA (+4.9%) / ขายตัดขาดทุน BEAUTY (-2.8%)
• หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BEAUTY, BTS, CPN, HMPRO, PLANB, QH

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research