ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน คาดว่า SET Index ยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว (13/06/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic and Laggard Play//Accumulate on Dip

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาด โดยตลาดตอบรับเชิงบวกค่อนข้างจำกัดกับผลการพบกันของผู้นำสหรัฐฯและเกาหลีเหนือ เนื่องจากยังมีอีกหลายปัจจัยสำคัญต้องติดตามตลอดทั้งสัปดาห์ แรงขายส่วนใหญ่ยังมาจากนักลงทุนต่างชาติราว 1.5 พันลบ. ขณะที่สถาบันในประเทศเป็นฝ่ายซื้อสุทธิ 1.3 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index ยังคงอยู่ในช่วงแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่อง โดยประเด็นที่ต้องติดตามนอกเหนือจากการประชุมธนาคารกลางใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ FED ECB และ BoJ ว่าจะดำเนินนโยบายการเงินต่อไปอย่างไร ส่วนปัจจัยสำคัญที่ดูมีน้ำหนักกับตลาดมากที่สุดตอนนี้คือเรื่องของสงครามการค้าที่คาดว่ายังต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับหลายๆประเทศ แต่หากเริ่มเห็นพัฒนาการของข่าวที่ดีขึ้น เราคาดว่าดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไปหลังจากปรับฐานมาพักใหญ่
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic และ Laggard//Accumulate on Dip 
  หุ้นเด่นเดือนมิ.ย. : BGRIM, GLOBAL, MTC, PCSGH, TVO  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$254ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$117ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$46ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเม็ดเงินไหลเข้า แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค นักลงทุนกลับมาสนใจต่อผลการประชุม Fed ที่คาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> GLOBAL <<

  • ผลประกอบการ 2Q18 น่าสนใจมาก เราคาด SSSG 2QTD บวกต่อเนื่อง (เช่นเดียวกับ CPALL และอาจมี HMPRO) สวนทางบริษัทอื่นในกลุ่มที่ส่วนใหญ่ทรงตัวถึงติดลบเพราะปีนี้ฝนตกเยอะ
  • เราคาดกำไร 2Q18 ราว 500-520 ล้านบาท โต 16-20% Y-Y แต่ชะลอเล็กน้อย Q-Q และน่าจะแผ่วลงใน 2H18 เพราะ low season เราคาดกำไรทั้งปี +27% Y-Y เป็น 2.05 พันล้านบาท 
  • ราคาหุ้นยังมี upside กว่า 10% จากราคาเป้าหมาย 19 บาท (DCF) แนะนำซื้อ

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) การประชุมระหว่างทรัมป์และคิมจองอึนไม่มีน้ำหนักมากพอกับหุ้นโลก แม้การประชุมจะผ่านไปด้วยดี มีการลงนามร่วมกันว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยสมบูรณ์ แต่ขาดรายละเอียดอีกมาก เช่นระยะเวลาในการปฎิบัติและการรับประกันผล ตลาดหุ้นโลกจึงไม่ได้ตอบรับมากนัก มีเพียงตลาดเอเชียบางตลาดเช่นจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น ซึ่งได้รับผลบวกจากการมีเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี แต่ก็บวกเพียงเล็กน้อย ตลาดหุ้นโลกกลับมาให้ความสนใจกับการประชุม Fed ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจ ล่าสุด Bond yield สหรัฐขยับขึ้นทุกช่วงอายุโดยเฉพาะอายุ 2 ปี สะท้อนความเชื่อของตลาดว่า Fed จปรับขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ 0.25%        
  (0) กลุ่ม Media บอลโลกปี 2018 เริ่มแล้ว 14 มิ.ย - 15 ก.ค. นี้ ถ่ายทอด 3 ช่อง คือ ช่อง 24 True2U, ช่อง 34 อัมรินทร์ และช่อง 5 ทั้งนี้ บอลโลกปี  2014 ทำให้เม็ดเงินโฆษณารวมเดือน มิ.ย.-ก.ค. เพิ่ม 2.1% และ 3.8% M-M แต่ปีนี้ ส่วนใหญ่ถ่ายทอดช่วง 1 ทุ่ม - 4  ทุ่ม ที่เป็น Prime-Time และ ตี 1 ต่างจากครั้งก่อนที่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 5 ทุ่ม - ตี 5 จึงอาจกระทบต่อ Rating ในช่วงเวลาดังกล่าว ท่ามกลางการแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างช่องต่างๆ รวมทั้ง Top-6 อย่าง ช่อง 7, ช่อง 3 (BEC), WPTV (WORK), MONO29 (MONO), ONE (GRAMMY), และช่อง 8 (RS) แต่เรายังให้ RS เป็น Top pick ในกลุ่มทีวี คาดกำไร 2Q18 โตทั้ง Q-Q, Y-Y จากทีวีฟื้นขึ้นและรายได้ H&B โตสูง Y-Y ราคาเป้าหมาย 32 บาท   
  (+) กลุ่มยานยนต์ ปีนี้จะเป็นปีที่ดีที่สุดในรอบ 5 ปีเพราะยอดส่งออกและยอดขายในประเทศจะกลับมาโตสูง ซึ่งทำให้ยอดผลิตรถคาดว่าจะโตได้ 5% Y-Y เทียบกับในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาที่โตเฉลี่ยเพียง 2% ต่อปี ประกอบกับประสิทธิภาพการผลิตของผู้ผลิตสูงขึ้น วัตถุดิบลดลง และมีรถรุ่นใหม่ๆออกมามากขึ้น ความนิยมของรถ EV กระทบผู้ผลิตในบ้านเราจำกัดมากเพราะการผลิตรถในประเทศราว 55% เป็นรถกระบะ ซึ่งยังไม่ได้รับความนิยมในการเปลี่ยนเป็น EV มากเท่ารถยนต์นั่ง และผู้ผลิตก็มีการปรับตัว การกระจายการลงทุนไปต่างประเทศ หรือในธุรกิจอื่นที่มีกระบวนการผลิตใกล้เคียงกับที่ทำอยู่ เราให้น้ำหนัก Overweight แนะนำซื้อ AH (ราคาเป้าหมาย 47 บาท) และ PCSGH (ราคาเป้าหมาย 13 บาท)  
  (-) RML แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ยังดูไม่ดี มีโอกาสพลิกเป็นขาดทุน เพราะมีคอนโดใหม่สร้างเสร็จเพียง 1 แห่ง (The Lofts Asoke มูลค่า 3.1 พันลบ. Sold 81%) ซึ่งเริ่มโอนบางส่วนใน 4Q18 แม้ RML จะมี Backlog 6.2 พันล้านบาท แต่ส่วนใหญ่คือ 70% รับรู้ในปี 2019-2020 ส่วนธุรกิจ Recurring income อย่างออฟฟิศให้เช่าที่เพลินจิต คาดเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2021 ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE 2018-19 ที่แพงกว่ากลุ่มมาก ในกลุ่มอสังหา เราชอบ ORI และ SC มากกว่า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

12-13 มิ.ย.

สหรัฐฯ: ประชุม FOMC

14 มิ.ย.

ยูโรโซน: ประชุม ECB

15 มิ.ย.

ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ

ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)

19 มิ.ย.

ไทย: ส่งออก-นำเข้า-ดุลการค้า (พ.ค.)

20 มิ.ย.

ไทย: กนง. ประชุม

21 มิ.ย.

ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม

  • (+) ภาพรวมตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาดูการประชุมของ FED
  • (-) ตลาดยุโรปปรับตัวลงเนื่องจากรอดูท่าทีของ ECB ที่จะประชุมในสัปดาห์นี้ โดยตลาดคาดว่า ECB จะเริ่มหยุดมาตราการผ่อนคลายทางการเงินภายในสิ้นปีนี้หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
  • (0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน โดยตลาดยังคงจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกรวมถึง BOJ ในสัปดาห์นี้
  • () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงทรงตัวอยู่ที่บริเวณ 32.05-32.15 บาท/ดอลลาร์
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.26 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 66.36 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากการคาดการณ์ว่าสต็อคน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลง
  • ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 3.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,299.40 ดอลลาร์/ออนซ์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 13 มิ.ย. 2561 เวลา : 09:16:30

18-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 18, 2024, 10:43 am