คำแนะนำ

  หากราคาทองคำไม่สามารถผ่าน 1,263-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ เปิดสถานะขาย แต่หากทะลุขึ้นไป อาจต้องชะลอการเปิดสถานะขายออกไปที่แนวต้านสำคัญ  1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไป

แนวรับ-แนวต้าน

แนวรับ  1,242  1,234  1,222
แนวต้าน  1,267  1,276  1,284

ปัจจัยพื้นฐาน
  ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 7.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์  หลังการเปิดเผยตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าคาด  ส่วนยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนพ.ค.ลดลง 3.7% สู่ระดับ 6.48 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนเพิ่มหลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐรายหนึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวจะ “ไม่ใช้” มาตรการสกัดกั้นบริษัทที่มีชาวจีนถือหุ้นมากกว่า 25% เข้าซื้อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐซึ่งถือว่าเป็นมาตรการที่ไม่ได้เข้มงวดเท่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้า  ประกอบกับสกุลเงินยูโรร่วงลงจากความไร้สเถียรภาพทางการเมืองในเยอรมนีหลังนางอังเกลา แมร์เคิล นายกเยอรมนีเผชิญกับแรงกดดันในการรับมือกับข้อขัดแย้งเรื่องการอพยพที่สร้างความแตกแยกในยุโรปและสร้างความเสี่ยงต่อรัฐบาลของเธออีกด้วย  ประเด็นเหล่านี้กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนครั้งใหม่บริเวณ  1,250.50  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลงวานนี้  -2.94 ตัน  สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยประมาณการครั้งสุดท้ายจีดีพีไตรมาส 1/2018 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ของสหรัฐ 

ปัจจัยทางเทคนิค
  ราคาเริ่มมีการดีดตัวกลับทุกครั้งเมื่อราคาอ่อนตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดของวันก่อนหน้า แต่หากการดีดตัวกลับของราคายังไม่สามารถกลับไปทดสอบหรือยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,263-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเกิดแรงขายซึ่งจะกดดันให้ราคาปรับตัวลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน GOLD SPOT & GOLD FUTURES  
  หากราคาไม่สามารถผ่าน 1,263-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ สามารถเปิดสถานะขายหรือถือสถานะขายต่อไป ทั้งนี้ หากราคาอ่อนตัวลงและสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,242 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจปิดสถานะขายเพื่อทำกำไรบางส่วน สำหรับการเปิดสถานะซื้ออาจต้องรอราคาในโซน 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์เช่นกัน