ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index จะแกว่งตัว Sideways หลังจากที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี (04/07/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Dividend Play

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways Up ในช่วงครึ่งเช้าก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงซื้อเข้าหนาแน่นในหุ้นขนาดใหญ่หลายกลุ่ม เช่น ปิโตรเคมี โรงพยาบาล รับเหมาฯ โรงแรม เป็นต้น หนุนให้ดัชนีปิดบวกได้เกือบ 20 จุด ณ สิ้นวัน แรงซื้อยังคงมาจากสถาบันในประเทศหนาแน่นถึง 4.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิหนัก 3.3 พันลบ. (แต่ Long Index Futures อีกเกือบ 1 หมื่นสัญญา)
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways หลังจากที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดี 2 วันติดต่อกัน โดยยังมองดัชนีเพียงแค่รีบาวด์ระยะสั้นและกรอบการบวกคาดยังจำกัดเนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลออก  รวมถึงยังต้องติดตามพัฒนาการของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนซึ่งยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะสามารถเจรจากันได้ก่อนเส้นตายวันที่ 6 ก.ค. รวมถึงยังมีโอกาสเห็นการเรียกเก็บภาษีระหว่างกันเพิ่มเติมระหว่างสหรัฐฯและชาติพันธมิตรอื่นๆ เราจึงยังให้เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic และ Dividend Play เป็นหลักอยู่ 
  กลยุทธ์ : ยังเน้นลงทุนในหุ้น Domestic และหุ้นปันผลสูง
  หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO  
  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$108ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$272ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$99ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$324ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคท่ามกลางความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน


ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> BANPU <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 26 บาท
  • ราคาถ่านหินล่าสุดทำจุดสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ US$118 ต่อตัน ทำให้ราคาเฉลี่ย 2QTD อยู่ที่ US$105 ต่อตัน +1% Q-Q, +30% Y-Y จากปัญหาขาดแคลนถ่านหินในอินเดีย และความต้องการถ่านหินคุณภาพสูงจากจีน
  • คาด 2Q18 พลิกมามีกำไรราว 3.8 พันลบ. เพราะธุรกิจหลักฟื้นตัว, ไม่มีค่าปรับแพ้คดีเหมือน 1Q18, และคาดมีกำไรจาก fx ราว 1 พันลบ. ส่วนกำไรทั้งปีคาด 1.08 หมื่นลบ. +37% Y-Y
  • PE2018 ต่ำเพียง 9 เท่า PEG แค่ 0.5 เท่า และ PBV ใกล้เคียง 1 เท่า Downside ในเชิง Valuation ถือว่าจำกัดมาก

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา Brent และ WTI ปรับขึ้นเฉลี่ย 0.5% และเช้านี้ขึ้นเฉลี่ยอีก 0.3% จากการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่ยังเผชิญปัญหาการเมืองภายใน และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในแคนาดาที่ลดลง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานโดยรวม โดยเฉพาะ PTT และ PTTEP  
  (0) เงินหยวนยังอ่อนค่า ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน อยู่ที่ 6.65 หยวนต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ จากความกังวลในประเด็นสงครามการค้า และการเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจของ PBOC แนวโน้มระยะสั้นยังมีโอกาสอ่อนค่าจนถึง 6 ก.ค. 18 ที่กำแพงภาษีมีผลบังคับใช้ ส่งผลให้เงินภูมิภาคเอเชียอ่อนค่าตามไปด้วย กระแสเงินจึงยังมีแนวโน้มไหลออกต่อเนื่อง 
  (+) BDMS เราคาดกำไรปกติ 2Q18 ยังโตแกร่ง 31.5% Y-Y อยู่ที่ 2,098 ลบ. หนุนจากทั้งฝั่งรายได้ที่โตดีต่อเนื่องนำโดยผู้ป่วยไทยจากฝนที่มาเร็วและการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่ต้นทุนคาดว่ายังคุมได้ดีต่อเนื่อง ทำให้ EBITDA Margin ขยายตัวจากปีก่อน ขณะที่ราคาหุ้นปรับฐานลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนปัจจัยเสี่ยงของตลาดฯและผลกระทบจากการแปลงสภาพหุ้นกู้ไปมาก เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 29 บาท โดย DBMS ยังเป็น Top Pick ของกลุ่ม และเป็นหุ้น Domestic และ Defensive Play ซึ่งเหมาะกับสภาวะตลาดที่ผันผวนในปัจจุบัน
  (+) THANI คาดการณ์กำไร 2Q18 ยังคงทำสถิติ New Record High ที่ 389 ลบ. +7% Q-Q และ +51% Y-Y เนื่องจากการคาดการณ์การเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 5% Q-Q, 27% Y-Y ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่คาด +5% Q-Q และ 21% Y-Y ข้อมูลยอดขายรถบรรทุกใน 2Q18 ดีกว่า 1Q18 และแนวโน้มจะดีขึ้นใน 2H18 ตามภาคการขนส่ง และการส่งออก เราคงประมาณการกำไรปี 2018 ที่ 35% Y-Y เติบโตโดดเด่นในกลุ่ม Non-Bank (คาดการณ์ Sector average growth 21% Y-Y) คงคำแนะนำซื้อ และคงราคาเหมาะสมปี 2018 ที่ 9.40 บาท
  (0) MVP เป็นที่รู้จักในนามผู้จัดงาน Thailand Mobile Expo ซึ่งจัดปีละ 3 ครั้ง แต่ด้วยประสบการณ์ในการจัดงานที่มีมากกว่า 11 ปี และมีการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้ดี ทั้งการจัดงานอีเว้นท์ให้กับเจ้าของแบรนด์สมาร์ทโฟน การจัดงานวิ่งที่กำลังได้แรงหนุนจากกระแสรักสุขภาพ และการให้บริการรถคาราวานที่จะเติบโตไปตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจ e-Commerce ที่ขายสินค้าให้แบรนด์ Samsung ทำให้กำไรสุทธิปี 2015-2017 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) สูงถึง 188% ต่อปี และผลจากการกระจายแหล่งที่มาของรายได้นี้เอง ทำให้ผลประกอบการรายไตรมาสผันผวนน้อยกว่า ARIP CMO GPI และ K เราคาดกำไรสุทธิปี 2018 โต 14% Y-Y อยู่ที่ 33 ลบ. ส่วนปี 2019-2020 คาดโตเฉลี่ย 16% ต่อปี จากการขยายพื้นที่จัดงาน TME, การจัดงานวิ่งเพิ่มขึ้น, และการเพิ่มรถคาราวาน เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2018 โดยอิง PE Multiplier 15 เท่า ได้เท่ากับ 2.50 บาท (บล. ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) อาจเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ MVP) 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ก.ค.

สหรัฐฯ: ยอดขายรถยนต์ (มิ.ย.)

ก.ค.

สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ADP (มิ.ย.) และ FOMC Meeting Minutes

ก.ค.

สหรัฐ: เริ่มเก็บภาษีนำเข้าจากจีน 818 รายการ US$3.4 หมื่นล้าน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (มิ.ย.)

11 ก.ค.

ไทย: TISCO ผลประกอบการ 2Q18

12 ก.ค.

ไทย: สนช.นัดลงมติเลือก กกต. ชุดใหม่

  • (-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลดลงจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากหน่วยงานของสหรัฐขยายการสอบสวนเรื่องการรั่วไหลของข้อมูล
  • (+) ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับผู้อพยพในเยอรมัน และตัวเลขภาคการผลิตในอังกฤษที่ยังคงขยายตัวได้เป็นอย่างดี
  • (0) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมผสาน โดยประเด็นการตอบโต้ทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงกดดันหุ้นในภาพรวม และยังรวมถึงข่าวที่นาย Najib Razak อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียถูกจับกุมเมื่อวานนี้ในคดี 1MDB
  • () ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย โดยล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
  • (+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.20 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 74.11 ดอลลาร์/บาเรลล์ จากการคาดการณ์ว่าตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบในสหรัฐยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งนำน้ำมันดิบเข้ากลั่นของโรงกลั่น
  • ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 11.80 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1,253.50 ดอลลาร์/ออนซ์

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 04 ก.ค. 2561 เวลา : 09:32:34

23-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 23, 2024, 9:08 pm