ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง (20/07/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Accumulate on Dip

  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในแดนบวกได้ค่อนข้างดีตามคาดหนุนโดยหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวที่ปรับขึ้นโดยเฉพาะ AOT แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถทะลุแนวต้านบริเวณ 1,650 จุดได้โดยยังคงรอติดตามผลประกอบการกลุ่มธนาคาร แรงซื้อส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศ 1.9 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิบางลงเหลือ 422 ลบ.
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ได้ต่อหลังธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งประกาศกำไรดีกว่าคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังขยับขึ้นซึ่งช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามเรายังคงมองกรอบการบวกของดัชนียังไม่กว้างนักเนื่องจากมีประเด็นกดดันบรรยากาศการลงทุนหลังทรัมป์ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ซึ่งถือเป็นการแทรกแซง และยังต้องติดตามการประกาศกำไรของกลุ่มธนาคารที่เหลือวันนี้ ส่วนฝั่ง Real Sector จะทยอยประกาศในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จึงยังมองว่าหุ้นที่มีกำไร 2Q18 แข็งแกร่งน่าจะยัง Outperform ตลาด
  กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 2Q18 แข็งแกร่ง //สะสมหุ้นพื้นฐานเพิ่มในช่วงอ่อนตัว
  หุ้นเด่นเดือนก.ค. : BANPU, CPF, EPG, PTTEP, TISCO  

  Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบาง US$5ล้าน เม็ดเงินไหลเข้าไต้หวันประเทศเดียว US$54ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$18ล้าน และไทย US$13ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค เก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTC <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 51 บาท
  • คาดกำไรสุทธิ 2Q18 ทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องที่ 850-860 ลบ. +2-3% Q-Q, +50% Y-Y โดยการปล่อยสินเชื่อคาดว่าจะทำได้ตามเป้าที่ 40-50% Y-Y เพราะเป็นช่วงเปิดเทอมและผลจากการเร่งเปิดสาขาช่วงต้นปี ซึ่งล่าสุดแตะ 2,800 สาขาไปแล้ว
  • ได้ประโยชน์จากการเลื่อนบังคับใช้มาตรฐาน IFRS 9 ส่วนประเด็นกฎระเบียนอื่นๆเรายังเชื่อว่ากระทบจำกัด ขณะที่ PE2018-19 ต่ำเพียง 16-22 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 33 เท่า  

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง ล่าสุดแตะ 33.5 บาท/ดอลล่าร์สหรัฐฯ อ่อนค่ามาแล้ว 7% ในรอบ 3.5 เดือน จากทั้งประเด็นสงครามการค้าและเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง หนุนให้ Dollar Index ดีดขึ้นต่อเนื่อง หุ้นกลุ่มส่งออกเริ่ม Outperform ตลาด ทั้งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเกษตรอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯที่งบ 2Q18 จะออกมาดีเกือบหมด ตัวที่ยังเหลือ Upside ให้ซื้อคือ SVI (ราคาเป้าหมาย 4.90 บาท) และ DELTA (ราคาเป้าหมาย 74 บาท)
  (+) BBL ผลประกอบการ 2Q18 มี Positive Surprise ทั้งกำไร สินเชื่อ และ NPL ที่ลดลง โดยกำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 9.2 พันลบ. +2% Q-Q, +14% Y-Y ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 10% เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ยที่สูงกว่าคาด สินเชื่อเพิ่มขึ้นไตรมาสเดียว 4.4% Q-Q ส่งผล 6M18 กลับเป็น +3.1%YTD ขณะที่ NPL ลดลง 9%Q-Q เป็น 3.5% ของสินเชื่อรวม เราปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 4% เป็น 3.57 หมื่นลบ. +8%Y-Y และปรับราคาเหมาะสมเป็น 232 บาท แนะนำซื้อ
  (0) SCB กำไร 2Q18 ใกล้เคียงกับที่เราคาดแต่ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้อยู่ที่ 1.11 หมื่นลบ. -2% Q-Q, -6.7% Y-Y กำไรที่ลดลงเกิดจากการลดลงของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนระบบ IT ต่างๆ สินเชื่อเพิ่มขึ้น 1.9% Q-Q มาจากทุกกลุ่มขณะที่ NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยถือว่ายังควบคุมได้ SCB มีการปรับเพิ่มเป้าหมายค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน แต่อยู่ในคาดการณ์ของเราแล้ว เราคงราคาเหมาะสมที่ 142 บาท ปรับขึ้นเป็น ซื้อ จาก ถือ เนื่องจาก Upside ที่กว้างขึ้น แต่เนื่องจากแนวโน้ม 2H18 ที่น่าจะชะลอตัว เราจึงชอบ BBL มากกว่า
  (+) BAY รายงานกำไร 2Q18 ที่ 6.27 พันลบ. ทรงตัว Q-Q แต่ +6.8% Y-Y ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด  รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ +2.6% Q-Q, +9.1% Y-Y และแม้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเห็นการเร่งตัวขึ้น แต่ NIM ยังทรงตัวที่ 3.75% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 4% Q-Q เนื่องจากการลดลงของกำไรจากเงินลงทุนและกำไรจากการปริวรรต ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิลดลง 2.5%Q-Q มาจากการลดลงของธุรกิจ Mutual Fund และ Brokerage ส่วนค่าธรรมเนียมการทำรายการผ่านดิจิทัล ลดลงเพียง 71 ลบ. หรือคิดเป็น 0.26% ของรายได้รวมและ 1% ของกำไรสุทธิ เรายังคงประมาณการกำไรทั้งปีนี้ 2.48 หมื่นลบ. (+6.9% Y-Y) คงราคาเหมาะสมที่ 44.60 บาท แนะนำซื้อ 
  (0) AH ราคาหุ้นที่ลง 8% วานนี้ยังไม่มีปัจจัยลบด้านพื้นฐาน แนวโน้มกำไร 2Q18 ยังคาดโต Y-Y จากทั้งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนและตัวแทนจำหน่ายในและต่างประเทศ รวมถึงดอกเบี้ยรับจาก SGAH ยังเข้าปกติ 80 ลบ./ไตรมาส (ไปจนถึงปี 2020) ขณะที่ ผลกระทบจากสงครามการค้าถ้ามาจริงจะกระทบทั้งอุตฯไม่ใช่แค่ AH (เมื่อวาน AH ลงตัวเดียว) ส่วนประเด็นการนำหุ้นที่ซื้อคืนมาขายในตลาด ยังเหลืออีกราว 5.98 ล้านหุ้น ไม่ได้เป็นตัวกดดันราคา เพราะตามเกณฑ์คือห้ามขายต่ำกว่า 85% ของราคาเฉลี่ย 5 วันย้อนหลัง แต่ในกรณีแย่สุดถ้าสมมติให้กำไรปีนี้ไม่โต PE2018 ต่ำแค่ 8 เท่า ถูกสุดในรอบ 5 ปี  Downside จึงจำกัด ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 47 บาท  
  (+) TACC คาดกำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 22 ลบ. -29% Y-Y เพราะฐานสูงปีก่อน และหยุดการขายที่กัมพูชาแล้ว แต่คาด +37.5% Q-Q มาจากทั้งการขายเครื่องดื่มผงสำหรับโถกด และร้าน All Café รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้จาก Character Business แล้ว กอปรกับเริ่มขายเครื่องดื่มผงสูตรใหม่น้ำตาลน้อยตั้งแต่กลาง พ.ค. 18 แนวโน้มกำไรอาจทรงตัวถึงอ่อนลงใน 3Q18 เพราะเป็น Low Season แต่คาดจะกลับมาฟื้นตัวและทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q18 ตามปัจจัยฤดูกาล และจะกลับมาขายเครื่องดื่ม Hershey’s อีกครั้งตั้งแต่ พ.ย. 18 แต่ด้วยกำไรที่ไม่สดใสใน 1H18 เราจึงปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 29% เหลือ 89 ลบ. -21% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 4.2 บาท แนะนำซื้อเก็งกำไร

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

20?ก.ค.

-?ไทย:?ผลประกอบการ 2Q18 KBANK KTB KKP

23 ก.ค.

สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านมือสอง (มิ.ย.)

24 ก.ค.

ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ก.ค.)

26 ก.ค.

ยูโรโซน: ประชุม ECB

สหรัฐฯ: ดุลการค้า (มิ.ย.) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.)

(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลง หลังปธ.ทรัมป์ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED เนื่องจากจะไปขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังเกิดแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มการเงิน หลังจากปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในช่วงก่อนหน้าการประกาศผลประกอบการ
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาโลหะปรับตัวลดลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ประเด็นเรื่อง Brexit ยังกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น หลังตลาดคลายความกังวลเรื่องสงครามการค้า ในขณะที่ค่าเงินในประเทศเอเชียที่อ่อนค่าลง น่าจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะถัดไป
(-) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.40-33.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 69.46 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุฯปรับคาดการณ์ตัวเลขส่งออกน้ำมันดิบในเดือนหน้าลง 
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 3.90 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1224.00ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 20 ก.ค. 2561 เวลา : 09:14:55

26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 8:40 am