ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index จะแกว่ง Sideways Up (08/08/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play//Accumulate on Dip

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวบวกขึ้นได้ดีกว่าที่เราคาดนำโดยหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีหลังจากที่ปรับตัวแรงในวันก่อนหน้า แรงขายส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศ 2 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่องและหนาแน่นขึ้นเป็น 2.2 พันลบ. (และพลิกมา Net Long ใน Index Futures บางๆ)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index จะแกว่ง Sideways Up ได้จากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อนข้างผ่อนคลายจากภูมิภาคอื่น อย่างไรก็ตามปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางตลาดในช่วงนี้คือผลประกอบการ 2Q18 ของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดอย่างมีนัยยะ เรายังมองว่าดัชนีมีโอกาสถูก Sell on Fact ระยะสั้นหลังปรับตัวขึ้นโดดเด่นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ประเด็นสงครามการค้าคาดว่ายังเป็นประเด็นที่จำกัดการปรับขึ้นของตลาดโดยล่าสุดสหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 1.6 หมื่นล้านเหรียญในวันที่ 23 ส.ค. นี้ 
กลยุทธ์ : เก็งกำไรงบ 2Q18 และยัง Laggard //สะสมหุ้นพื้นฐานคืนในช่วงตลาดพักฐาน
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC  

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$63ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไทย US$67ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไต้หวัน US$45ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคหลังสหรัฐและจีนยังคงมีมาตรการตอบโต้ทางการค้าต่อเนื่อง

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CHG <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.70 บาท
  • เราคาดกำไรปกติ 2Q18 ที่ 140 ลบ. +18.3% Y-Y จากฤดูฝนที่มาเร็วและการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่ 2H18 ยังดีต่อเนื่องโดยเฉพาะ 3Q18 ที่จะเป็นจุดสูงสุดของปีจาก High Season
  • เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนใหญ่ในช่วง 2 ปีที่แล้ว ที่จะส่งผลดีชัดเจนตั้งแต่ปีนี้ โดยคาดกำไรสุทธิทั้งปีที่ 679 ลบ. +20% Y-Y ส่วนปีหน้าคาด +10% Y-Y อยู่ที่ 746 ลบ.

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (+) Banks เราคาดว่ากนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5% ในการประชุมวันนี้ แต่เสียงอาจไม่เป็นเอกฉันท์ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา Yield curve ล่าสุด (เดือนส.ค.) ที่มีความชันเพิ่มขึ้น สะท้อนว่าอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ปรับขึ้นล่วงหน้าไปแล้ว เราสังเกตว่าธนาคารบางแห่งเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเงินกู้ยืมบางประเภท อาทิ เงินกู้ยืมระยะยาว (การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับการขอซื้อหุ้นของ LH)  เงินให้สินเชื่อเช่าซื้อและที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้าใหม่ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นจะเป็นบวกต่อธนาคารขนาดใหญ่เพราะมีสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยในสัดส่วนมากกว่าหนี้สิน ในกรณีอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบ KBANK ราคาเป้าหมาย 235 บาท (NIM สูงสุดในกลุ่มแบงก์ใหญ่) และ BBL ราคาเป้าหมาย 232 บาท (มีสัดส่วนสินเชื่อธุรกิจสูงสุด)
  (0) กลุ่มสื่อสารฯ วันนี้กสทช.เปิดให้ให้ยื่นเข้าประมูล ล่าสุด TRUE แจ้งตลาดฯว่าไม่เข้าร่วม (ตามคาด) แต่ต้องจับตา ADVANC และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง DTAC ที่เข้ามารับเอกสารเพื่อประมูลคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ไปแล้วก่อนหน้าว่าจะยื่นเข้าร่วามประมุลหรือไม่ หาก DTAC ตัดสินใจไม่เข้าประมูล คาดราคาหุ้นจะตอบรับเชิงลบอย่างรุนแรงเช่นเดียวกับช่วงเดือนมิ.ย. และเป็นบวกกับ ADVANC และ TRUE ในแง่ความสามารถในการแข่งขันที่สูงกว่าและความเสี่ยงของธุรกิจที่ต่ำกว่า เรายังเลือก ADVANC (ราคาเป้าหมาย 220 บาท) และ INTUCH (ราคาเป้าหมาย 67.50 บาท) เป็น Top Pick
  (0) TOP กำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 4,795 ลบ. -14.5% Q-Q, +47.6% Y-Y สาเหตุที่ลดลง Q-Q จาก Fx Loss 1,159 ลบ. ส่วนที่เพิ่ม Y-Y มาจาก Stock gain ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น แนวโน้ม 2H18 คาดว่า GRM จะฟื้นตัวจากที่ลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ US$3.8/บาร์เรล โดยปัจจุบันอยู่ที่ US$6.5/บาร์เรล เราคงคาดกำไรทั้งปีที่ 16,106 ลบ. -35% Y-Y และคงราคาเป้าหมายที่ 88 บาท แนะนำถือ
  (+) MTC กำไรสุทธิ 2Q18 ดีกว่าที่เราคาดที่ 912 ลบ. +9.4%Q-Q, +59.7%Y-Y เกิดจากการเติบโตของทั้งรายได้ดอกเบี้ยรับและรายได้ค่าธรรมเนียมที่มากกว่าคาด ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ดีกว่าคาด +17%Q-Q, +40%Y-Y มาอยู่ที่ 1.97 หมื่นลบ. NPL Ratio ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.35% ขณะ Coverage ratio ยังแข็งแกร่งที่ 247% เรามีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปีขึ้น (MTC จะมีการประชุมในวันที่ 9 ส.ค. นี้) เนื่องจากกำไร 2Q18 ที่ดีกว่าคาดขณะที่กำไรจะดีขึ้นอีกใน 2H18 ซึ่งตามปกติจะเป็น High Season ใน 2H18 คงคำแนะนำ ซื้อ คงราคาเป้าหมาย 51 บาท
  (0) KCE กำไรสุทธิ 2Q18 อยู่ที่ 558 ลบ. (+8% Q-Q, -17% Y-Y) ถ้าไม่รวม Fx Gain จะมีกำไรปกติ 527 ลบ. (+29% Q-Q, -14% Y-Y) ต่ำกว่าคาด โดยสาเหตุที่กำไรลง Y-Y มาจากบาทแข็งและต้นทุนสูง ส่วนที่เพิ่ม Q-Q เป็นเพราะฤดูกาล และปัญหาต้นทุนแพง+คอขวดเริ่มคลี่คลาย แนวโน้มกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 3Q18 เพราะเป็น High Season และยังมี Sentiment บวกจากราคาทองแดงที่ทรุดตัวเร็ว แนะนำซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมายปีหน้า 45 บาท
  (+) ITEL เราคาดว่ากำไรสุทธิ 2Q18 จะออกมาโดดเด่นต่อเนื่อง +9% Q-Q, +36% Y-Y อยู่ที่ 34 ลบ. จากรายได้ให้เช่าโครงข่ายที่เพิ่มขึ้นตามการได้ลูกค้ารายใหม่ และงานรับเหมาติดตั้งโครงข่ายที่การส่งมอบงานเร่งตัวขึ้น แต่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะชะลอเหลือ 20.4% จาก 24.9% ใน 1Q18 เพราะต้นทุนให้เช่าโครงข่ายเพิ่มสูงขึ้น ถ้ากำไรเป็นไปตามคาด กำไรสุทธิ 1H18 จะคิดเป็น 42% ของคาดการณ์ทั้งปีที่ 154 ลบ. +44% Y-Y เรายังคาดว่าจะเห็นกำไรเร่งตัวขึ้นใน 2H18 จากงานติดตั้งโครงข่ายที่จะมีเข้ามามากขึ้น ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

ส.ค.

จีน: ดุลการค้า (ก.ค.) ตลาดคาดยอดส่งออก +10% Y-Y

ฟิลิปปินส์: ดุลการค้า (มิ.ย.)

9 ส.ค.

จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)

ฟิลิปปินส์: 2Q18 GDP ตลาดคาด 6.8% Y-Y

10 ส.ค.

ญี่ปุ่น: 2Q18 GDP ตลาดคาด+1.4% Y-Y

(+) ตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นในกลุ่มธนาคารจากความคาดหวังเรื่องขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้น Tesla หลังบริษัทกำลังพิจารณาที่จะเอาหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นจากการเข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นยานยนต์และสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ราคาบ้านในอังกฤษที่เพิ่มขึ้นในรอบ 8 เดือน ก็เป็นอีกปัจจัยบวกต่อภาพเศรษฐกิจโดยรวม
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อย หลังรัฐบาลจีนพยายามทำให้ค่าเงินกลับมาเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากค่าเงินหยวนปรับตัวลดลงกว่า 6% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดกลับลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.16 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 69.17 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตลาดยังคงกังวลต่อความคว่ำบาตรอิหร่าน
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง 0.01 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 6.58 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.60 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1218.30 ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ส.ค. 2561 เวลา : 09:22:25

27-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 27, 2024, 7:55 am