ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน SET Index คาดว่าจะปรับตัวขึ้น (28/08/61)


 กลยุทธ์วันนี้ >> Domestic Play//Let Profit Run

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้ตามคาดจากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น รวมถึงถ้อยแถลงของประธาน FED ที่ย้ำว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งและจะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แรงซื้อส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศและเร่งตัวขึ้นเป็น 3.8 พันลบ. ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิ 585 ลบ. (แต่พลิกมา Long ใน Index Futures เล็กน้อยราว 1.5 พันสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index คาดว่าจะปรับตัวขึ้นทดสอบจุดสูงเดิมในรอบก่อนบริเวณ 1,730 จุดบวกลบจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสหลังสหรัฐฯสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโกซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงข้อตกลง NAFTA และทำให้ประเด็นกดดันเรื่องสงครามการค้าผ่อนคลายลง ขณะที่พรุ่งนี้จะเริ่มงาน Thailand Focus ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนและมีโอกาสที่กระแสเงินทุนจะกลับมาไหลเข้าในระยะถัดไปและหนุนดัชนี 
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้น Domestic Play//ถือต่อ Let Profit Run
หุ้นเด่นเดือนส.ค. : BJC, BKD, INTUCH, RS, SC  

Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$616ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$336ล้าน ขณะที่ไหลออกจากไทย US$18ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังตลาดคลายกังวลต่อแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed, การบรรลุข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก รวมถึงธนาคารจีนส่งสัญญาณมาตรการหนุนค่าเงินหยวนซึ่งตลาดมองว่าจะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ

ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> AMATA <<

  • แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
  • แม้กำไรสุทธิ 1H18 ที่ทำได้เพียง 601 ลบ. +19% Y-Y จะคิดเป็นเพียง 35% ของคาดการณ์ทั้งปีนี้ที่ 1,721 ลบ. +22% Y-Y แต่เรายังคาดว่าจะเห็นกำไรเร่งตัวขึ้นมาใน 2H18 จากปัจจัยฤดูกาลที่ยอดขายที่ดินมักกระจุกตัวใน 4Q และคาดว่าจะได้แรงหนุนจาก EEC โดยเฉพาะหลังจบ Thailand Focus ซึ่งคาดว่าจะทำให้นักลงทุนมั่นใจในประเด็นนี้มากขึ้น 
  • ราคาหุ้นซื้อขายใกล้มูลค่าทางบัญชี และคิดเป็น PE2018-19 เพียง 11-12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 15 เท่า ความเสี่ยงขาลงจึงจำกัดมาก

ประเด็นสำคัญวันนี้
  (0) ยอดผลิตรถยนต์ ก.ค. 18 อยู่ที่ 183,119 คัน ลดลง 3% M-M แต่เพิ่มขึ้น 15% Y-Y แรงหนุนมาจากยอดขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 29% Y-Y อยู่ที่ 81,946 คัน ส่วนยอดส่งออกเริ่มทรงตัว  แนวโน้มกำไร 2H18 เรามองว่ากลุ่มยานยนต์มีความน่าสนใจลดลง เพราะฐานเริ่มยกตัวขึ้นมาตั้งแต่ 2H17 ตามการค่อยๆฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และการเร่งออกรถยนต์รุ่นใหม่ของผู้ผลิต อีกทั้ง ผู้ประกอบการเกือบทั้งหมดยกเว้น STANLY กำลังอยู่ในช่วงลงทุนเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในอนาคต เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารทรงตัวในระดับสูง เราให้น้ำหนักเป็น Neutral และแนะนำ PCSGH เป็น Top Pick ราคาเป้าหมาย 11 บาท  
  (+) กลุ่มที่อยู่อาศัย ยอด Presales 2Q18 +23% Q-Q, +13% Y-Y หนุนจากโครงการเดิมเป็นหลัก และมีการเริ่มเปิดตัวคอนโดใหม่บางแห่ง โดย 1H18 คิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปี แนวโน้ม 2H18 จะเด่นขึ้น จากการเร่งเปิดโครงการจำนวนมากราว 70% ของแผนการเปิดตัวทั้งปี เรายังคาดว่า Earnings Momentum จะเป็นบวกต่อเนื่อง และทำจุดสูงสุดใน 4Q18 จากยอด Presales แนวราบที่ไปได้ดี และการเริ่มโอนคอนโดหลายแห่ง Top Pick ของเรา คือ ORI (เป้าหมาย 25.40 บาท) จากการเป็นหุ้นเติบโต โดยคาดการณ์กำไรปกติปี 2018-19 ที่ 2.9 พันล้านบาท (+108% Y-Y) และ 3.8 พันล้านบาท (+31% Y-Y) แกร่งที่สุดในกลุ่ม โดย Backlog ที่รองรับแล้วถึง 79% และ 52% ตามลำดับ ประกอบกับมีการขยายพอร์ตไปยัง Recurring Income ช่วยสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ และกระจายความเสี่ยงได้ดี, SC (เป้าหมาย 4.80 บาท) ในแง่ Valuation ที่ถูก ซื้อขายบน PE2018-19 ต่ำเพียง 7 เท่า สวนทางกับผลการดำเนินงานที่จะกลับมาโตเด่นในปีนี้ พร้อมมีอัตราเงินปันผลที่อยู่ในระดับสูง 5-6% ต่อปี 
  (0) TOP ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) เรามีมุมมองเชิงบวกในโครงการ CFP ในระยะยาว จากการเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นที่จะหนุน GRM เพิ่มอีก 3-4 ดอลล่าร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และคาดว่าน้ำมันคุณภาพสูงจะเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากตั้งแต่ปี 2020 ที่IMO เริ่มมาตรการลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ โดยคาดว่าโครงการ CFP จะเริ่ม COD ในปี 2022-23 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นจน Upside เหลือน้อย เราจึงแนะนำถือ ราคาเป้าหมาย 88 บาท
  (+) BEM บอร์ดรฟม.จะพิจารณาอนุมัติรถไฟฟ้าสายสีส้มในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ในรูปแบบ PPP Net Cost เราคาดว่า BEM มีโอกาสสูงที่จะเข้าประมูล เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการเดินรถรถไฟฟ้าใต้ดินรายเดียว และมีบางสถานีของสายสีส้มเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน รวมถึง CK จะได้รับอานิสงค์ จากการรับงานก่อสร้างต่อจากบริษัทลูก และปัจจุบันอยู่ระหว่างก่อสร้างฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ ข่าวดังกล่าวจะเป็น Catalyst บวกกับกลุ่มรับเหมาจากความชัดเจาในการเร่งประมูลงานจำนวนมากก่อนการเลือกตั้งปีหน้า เรายังคงคาดกำไรปีนี้ของ BEM ที่ 3,709 ลบ. +19% Y-Y แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 10 บาทรวมถึงแนะนำซื้อ CK ราคาเป้ามาย 34 บาท

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

28 ส.ค.

ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)

สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

29 ส.ค.

สหรัฐฯ: 2Q18 GDP (ครั้งที่ 2)

29-31 ส.ค.

ไทย: Thailand Focus 2018

31 ส.ค.

จีน: ดัชนี PMI ภาคการผลิต (ส.ค.)

(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโก ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนปรับตัวขึ้นหนุนตลาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จากดัชนีความเชื่อมันในเยอรมันที่ดีขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น จากข่าวดีที่สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับเม็กซิโกได้ ทำให้ตลาดคาดว่ามีโอกาสที่สหรัฐจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประเทศอื่นๆได้เช่นกัน
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.15 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 68.87 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังคงอ่อนค่าลง
(-) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ลดลง  0.42 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 5.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
() ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1209.00 ดอลลาร์/ออนซ์


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 28 ส.ค. 2561 เวลา : 09:21:14

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 10:29 pm