สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +7.57 จุด แรงซื้อเก็งกำไรหวังเทคนิคอลรีบาวด์

  SET แกว่งผันผวนในกรอบค่อนข้างกว้าง 1676-94 โดยช่วงเช้าแกว่งอิงแดนลบก่อนฟื้นตัวในช่วงบ่ายจากแรงซื้อเก็งกำไรหวังเทคนิคอลรีบาวด์ระยะสั้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้าจากสหรัฐฯ และแนวโน้มการอ่อนค่าของเงินในปท. EM ต่างชาติขายสุทธิ 2.55 พันลบ. 10 วันติด และ Short S50 Futures 1,766 สัญญา 3 วันติด

ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์ดาวน์ กังวลการค้า ปธน.ทรัมป์เล็งเป้าถัดไปที่ญี่ปุ่น 
  หุ้นโลกเมื่อวาน (6 ก.ย.) ส่วนใหญ่ปรับลงต่อ ยกเว้นดัชนี DJ +20 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ซบเซา จากความกังวลสงครามการค้าและความปั่นป่วนของตลาดการเงินของปท. EM ต่างๆ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.4% จากสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นกว่าคาด  มอง SET มีแนวโน้มแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ ยังถูกกดดันจากบรรยากาศการลงทุนภายนอกที่เป็นลบต่อเนื่อง นอกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-แคนนาดายังไม่ได้ข้อสรุป และ ปธน.ทรัมป์จะสั่งเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ หรือไม่หลังเพิ่งสิ้นสุดรับฟังความคิดเห็นไปแล้วเมื่อวานนี้ ล่าสุดปธน.ทรัมป์จะเล็งเป้ากีดกันการค้าถัดไปที่ญี่ปุ่น เพิ่มความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าจะรุนแรงขึ้น ด้านค่าเงินของปท.ใน EM ที่ยังมีแนวโน้มอ่อนค่า ทำให้ยังมีแรงขายลดความเสี่ยงจากต่างชาติอยู่ แต่ SET ไม่น่าลงรุนแรงและยังมองดีในระยะถัดไป จากพื้นฐานศก.ไทยแข็งแกร่ง รอลุ้นข่าวดีการเมืองในปท.กลางเดือนนี้ แนวรับ 1685+/-, 1676 (โลว์เมื่อวาน) แนวต้าน 1695, 1700-1705 อนึ่ง คาดไม่มีหุ้นติด Cash Balance เย็นนี้

กลยุทธ์การลงทุน : ไม่แนะนำเทรดดิ้งสั้น, พอร์ตลงทุน รออ่อนตัวทยอยสะสม
  ตราบใดที่ SET ยังไม่ขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1700-1705 ได้ เรายังแนะนำให้ถือเงินสด รอประเมินจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ แต่สำหรับพอร์ตลงทุน มองเป็นโอกาสดีในการรอทยอยสะสมที่ SET บริเวณ 1660-65 และ 1650 ลงมาตามลำดับ ภายใต้สมมติฐานปัจจัยการเมืองจะชัดเจนขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ หนุนการเลือกตั้งปีหน้า

• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Trading Pick MINT – มองแนวโน้มกำไร 3Q18F จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ จากโรงแรมที่ยุโรปเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และการขยายตัวของรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar), เป้าการเข้าถือหุ้น NH Hotel เพิ่มจากปัจจุบันที่ 35.6% เป็น 51-55% ยังเป็นไปตามแผน ซึ่งจะหนุนกำไรปีหน้าเข้ามาแบบเต็มปี, เป้าพื้นฐาน 47 บ. / FTSE Rebalance Asia ex Japan มีผลราคาปิด 21 ก.ย. FTSE All World - มีหุ้นไทยถูกคัดออก คือ BEC, FTSE Large Cap - มีหุ้นไทยถูกออก คือ MINT (ลดระดับเป็น Mid Cap), FTSE Mid Cap มีหุ้นเข้าคือ MINT และหุ้นถูกออก คือ BEC, FTSE Small Cap – มีหุ้นเข้า คือ MBK, BEC (ตกมาจาก Mid Cap) / หุ้นกำไรครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก มี Upside สูง – CK, CMAN, NYT, PCSGH, PLANB, PRM, SEAFCO, STEC, WHA / หุ้นเด่นในแต่ละอุตฯ ที่น่าทยอยสะสม คือ AUTO – PCSGH / BANK – BBL, KBANK, SCB / COMM – CPALL, BJC, COM7 / CONMAT – SCC / CONS – CK, STEC, SEAFCO / FIN – AEONTS, ASAP / FOOD – MINT / ICT – INTUCH, TRUE / MEDIA – PLANB / PETRO – IVL, CMAN / PROP – ANAN, LH, QH, ROJNA / TRANS – BTS, JWD, NYT / mai – SPA / DIVIDENDs – KKP, LH, NYT, TPIPP, TVO
• หุ้น Weekly GURU ซื้อ EPG (เป้าสั้น 9.5 บ.), HANA (39.5 บ.) / ถือ STEC, TRUE (ปรับเป้าสั้นเป็น 7 บ. จาก 6.8 บ.) / ขายเปลี่ยนตัว BCP (+0.6%), III (+5.8%)
• หุ้นเด่น ก.ย. (Smart Tactics) BJC, CK, COM7, HANA, IRPC, MINT, PRM, TCAP
• หุ้นเด่น 2H18 Big Cap. - KBANK , BBL , CPALL , BJC , CK , IVL , SCC , LH , PSH , QH , TRUE , INTUCH / Mid-Small Cap. - BTS , COM7 , NYT , PLANB , ROJNA , STEC , SEAFCO , SPA

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research