MTS Gold ระบุราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในรอบปี โดยเมื่อวานลดลงมากกว่า 50 เหรียญ หลังมีแรงเทขายอย่างหนักจากความต้องการเงินสดของนักลงทุนทั่วไปในตลาดหุ้น โดยที่ดัชนีดาวโจนส์เมื่อวานปิดปรับลงไปกว่า 9.99% ซึ่งเป็นการปิดรายวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1987 และภาพรวมปิดที่ 21,200.62 จุด ภาพรวมทั่วโลกตื่นตระหนกกับเชื้อไวรัสโคโรนาที่กระจายเข้าสู่ฝั่งยุโรปและตะวันออกกลาง และผู้นำระดับรัฐมนตรีหลายๆประเทศรวมไปถึงฝรั่งเศสและแคนาดาที่มีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้สหรัฐฯประกาศงดการเดินทางจากยุโรปมายังสหรัฐฯ รวมทั้งนายทรัมป์เองก็งดเว้นการเดินทางไปยุโรป ในส่วนของราคาน้ำมันปรับตัวลงไปประมาณ 3-4% และเช้านี้ลงอีก 2% ด้าน NYMEX ปรับตัวลงอีก 3 เหรียญ/บาร์เรลโดยประมาณ

ด้านหุ้นเอเชียเปิดแดนลบทั้งหมด ทำให้ภาพของตลาดการเงินโดยทั่วไปมีความผันผวนอย่างมาก รวมไปถึงการส่งผลกระทบต่อตลาดทองคำที่มีแรงกดดันให้เทขายลงมาเกือบ 4% เช้านี้ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากการเปิดตลาดจากบริเวณ 1,580 เหรียญ ลงมาที่บริเวณ 1,550 เหรียญ และดูเหมือนตลาดไม่ให้ความสนใจกับตัวเลขเศรษฐกิจนัก แต่ให้ความสนใจกับการอัดฉีดสภาพคล่องของภาครัฐและธนาคารกลางต่างๆ ขณะที่อีซีบีคงดอกเบี้ยแต่มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ทั้งนี้ ตลาดยังสนใจต่อการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มหรือไม่ ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR ขายทองคำออกอีก 9.07 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 944.18 ตัน