ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
TISCO Market Insight SET +12.39 จุด เก็งกำไรหุ้นรายตัว-เล็งคลายล็อกระยะ 2


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +12.39 จุด เก็งกำไรหุ้นรายตัว-เล็งคลายล็อกระยะ 2

SET แกว่งอิงแดนบวกในกรอบ 1283-1301 จ่อทะลุ 1300 ปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลง มีแรงเก็งกำไรหุ้นเป็นรายตัว หลังประกาศงบดีกว่าคาด และคาดหวังเชิงบวกต่อการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 2 ต่างชาติขายสุทธิ 3.2 พันลบ. 7 วันติด แต่ Long S50 Futures เล็กน้อย 331 สัญญา 3 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : อ่อนลง ตปท.ห่วงการระบาดรอบใหม่, ท่าที US กดดันจีน
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (12 พ.ค.) ผันผวนช่วงท้ายตลาด กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ติดลบประมาณ 2% หลังที่ปรึกษาด้านสุขภาพประจำทำเนียบขาวชี้แจงต่อสภาคองเกรสว่ายังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาด COVID-19 ได้ และเป็นห่วงบางรัฐที่เร่งเปิดศก.เร็วเกินไป อาจนำไปสู่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากวุฒิสภาสหรัฐฯ เล็งผลักดันกม.ให้อำนาจปธน.ทรัมป์ในการลงโทษจีนหากไม่ให้ความร่วมมือในการสอบสวนถึงสาเหตุการแพร่ระบาด COVID-19 ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI รีบาวด์เกือบ 7% ปิดสูงสุดในรอบ 1 เดือน ขานรับข่าวซาอุฯ เตรียมจะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือน มิ.ย.  มอง SET มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดรอบใหม่ในตปท.หลังคลายล็อกดาวน์ ประกอบกับท่าทีสหรัฐฯ ที่เดินหน้ากดดันจีนที่เป็นต้นเหตุการแพร่ระบาด COVID-19 อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสงครามการค้ารอบใหม่ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมีภูมิต้านทานจากปัจจัยภายนอกได้ดี เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดฯ ในไทยยังควบคุมได้ นำไปสู่การผ่อนปรนระยะที่ 2 ซึ่งเป็นผลดีต่อแนวโน้มศก.และกำไรบจ.ในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่การประกาศงบ Q1 ไม่ได้แย่กว่าที่คาด และบางตัวดีกว่าคาด ช่วยหนุนแรงซื้อเก็งกำไรหล่อเลี้ยงภาวะตลาดในระยะสั้น วันนี้แนะนำติดตามมุมองศก.ของปธ.FED และการส่งสัญญาณนโยบายดบ.ในอนาคต แนวรับ 1285-90, 1270+/- แนวต้าน 1302, 1320 
 
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้นในกรอบ 1270-1330 หาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว
 
SET เมื่อวานปิดเหนือระดับ 1290 เป็นจังหวะเข้าเทรดดิ้งสั้นรอบใหม่ เล็งเป้า SET 1320-30 และใช้ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1270 / เน้นเก็งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการทยอยเปิดศก., หุ้นงบดี และหุ้นเข้าดัชนี MSCI
 
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick BAM – คาดราคาหุ้นจะตอบสนองทางบวก หลังได้รับคัดเลือกเข้าดัชนี MSCI Global Standard มีผลสิ้นเดือนนี้, มอง BAM เป็นเป้าลงทุนของเม็ดเงินกองทุนทั้งในและตปท. จากแนวโน้มกำไรที่คาดจะฟื้นตัวครึ่งปีหลัง จากภาวะศก.ที่ได้รับผลบวกจากการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และมาตรการต่าง ๆ ภาครัฐ, ปันผลดี 4-5% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 29 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. ชอบ CPALL, BJC, HMPRO, CPN, BTS, BEM / หุ้นคาดงบจะออกมาดี – BCH, CPF, EA, MEGA, PRM, PYLON, RBF, SMPC, STA, TVO, VNT / หุ้นเข้า MSCI Global Standard 3 ตัว – AWC, BAM, KTC ออก 1 ตัว BANPU / MSCI Small Cap เข้า 1 ตัว – BANPU ออก 16 ตัว – ANAN, BEAUTY, BEC, ERW, GGC, ITD, LPN, PLAT, PSL, GLOBAL, SVI, TTA, U, UNIQ, UV, WORK / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นบลูชิพที่คาดเป็นเป้าลงทุน SSF พิเศษ เด่น AOT, BAM, BDMS, BTS, CPALL, KBANK, PTT, SCC, VGI / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC 
 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 13 พ.ค. 2563 เวลา : 15:03:50

26-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 26, 2024, 3:58 pm