ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
TISCO Market Insight สรุปภาวะตลาดวันก่อ SET +5.77 จุด GDP Q1 หดตัวน้อยกว่าคาด


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +5.77 จุด GDP Q1 หดตัวน้อยกว่าคาด, น้ำมันไต่ขึ้น

SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1283-95 ขานรับ GDP Q1 ของไทยหดตัวเพียง -1.8% YoY ดีกว่าที่ตลาดคาดที่ -3.9% YoY ขณะที่สศช.มองทั้งปี -5% ถึง -6% ด้านราคาน้ำมันไต่ขึ้นต่อเนื่อง ช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี ต่างชาติขายสุทธิ 2.07 พันลบ. 11 วันติด และ Short S50 Futures 2,258 สัญญา 2 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : มีโอกาสทะลุ 1300 นลท. Risk-on คาดหวังวัคซีน COVID-19
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (18 พ.ค.) พุ่งขึ้นแรง 3-4% ท่ามกลางความหวังวัคซีน COVID-19 ของบ.Moderna ซึ่งได้ผลทดสอบเฟส 1 ในเชิงบวก นอกจากนี้ ปธ.FED มองยังมีเครื่องมืออีกมากที่จะช่วยกระตุ้นศก. พร้อมเชื่อมั่นศก.สหรัฐฯ จะหลุดพ้นจากภาวะถดถอย ช่วยหนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ขึ้นแรง 3 วันติด +8% ปิดเหนือระดับ 31 $/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 2 เดือน  มอง SET มีแนวโน้มเปิดกระโดดขึ้น เชื่อจะผ่านระดับ 1300 จุดไปเลย ตาม Sentiment เชิงบวกจากหุ้นโลกและราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นแรง อย่างไรก็ดีระหว่างวันระวังแกว่งจากแรงขายล็อกกำไรระยะสั้น หลังระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยจะตึงตัวมาก คิดเป็น 12m Fwd. PER ที่ 16.7 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีตที่อยู่ที่ 16.6 เท่า ขณะที่ประมาณการกำไรของตลาดโดยรวมยังมีแนวโน้มหั่นลงอีก จะทำให้ราคาหุ้นแพงขึ้นโดยปริยาย วันนี้แนะนำติดตามการประชุมครม.คาดพิจารณาแผนฟื้นฟู THAI และการท่องเที่ยว, ถ้อยแถลงของปธ.FED ต่อสภาคองเกรส แนวรับ 1280, 1275 แนวต้าน 1300-1305, 1320 

กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้นในกรอบ 1270-1330 หาจังหวะซื้อช่วงอ่อนตัว
 
ช่วงนี้แนะนำแค่เทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย และใช้ Stop เมื่อ SET ปิดต่ำกว่า 1270 / หาก SET ปิดทะลุ 1300 จะเป็นสัญญาณเชิงบวก เล็งเป้าขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 1320-30 และจะปรับ Trailing Stop ขึ้นเป็น 1280
 
•ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick RBF – หลังประกาศกำไร 1Q20 ดีกว่าคาด และแนวโน้มธุรกิจของ RBF ยังคงแข็งแกร่ง รวมทั้งการปรับส่วนผสมทางผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เน้นกลิ่นและสีเพิ่มขึ้นจาก 35% เป็น 40% เราจึงปรับสมมติฐาน GPM ขึ้น 310-360bps ในปี 20-21F ส่งผลให้ประมาณการกำไรปรับขึ้น 16-17% เป็น 500 ลบ. และ 563 ลบ. เติบโต 42% และ 13% ตามลำดับ, เป้าพื้นฐานใหม่ 6.6 บ. / หุ้นรับอานิสงส์รัฐบาลทยอยเปิดศก. และราคายังมี upside ชอบ CPALL, HMPRO, BEM, BTS / หุ้นงบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไร-เป้าราคาหุ้นขึ้น – CBG, COTTO, CPF, GLOBAL, LPH, PYLON, SMPC, SYNEX / หุ้นที่แนวโน้มกำไร Q2 ดีขึ้นจาก Q1 ที่น่าจะเป็นจุดต่ำ ชอบ AP, PRM, PTTEP, TASCO, TWPC / หุ้นเก็งเข้า SET50 ชอบ TTW / SET100 ชอบ ACE, TVO, WHAUP / หุ้นเข้า MSCI Global Standard 3 ตัว – AWC, BAM, KTC ออก 1 ตัว BANPU / MSCI Small Cap เข้า 1 ตัว – BANPU ออก 16 ตัว – ANAN, BEAUTY, BEC, ERW, GGC, ITD, LPN, PLAT, PSL, GLOBAL, SVI, TTA, U, UNIQ, UV, WORK / อุตฯ ที่ได้รับผลกระทบน้อยจาก COVID-19 ทนทานสูงจากภาวะศก.หดตัวแรง ชอบ กลุ่มค้าปลีก - CPALL, BJC, HMPRO กลุ่มอาหาร – CPF, RBF กลุ่มสื่อสาร – DTAC, INTUCH, TRUE กลุ่มรพ. – BDMS อื่นๆ – BAM, RATCH / หุ้นปันผลดี - AP, BTSGIF, DIF, INTUCH, KKP, NYT, SABINA, SMPC, SPALI, TVO / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ดำเนินธุรกิจมากขึ้นหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 – AIT, COM7, ITEL, SAMART, SYNEX / หุ้นคุณค่า – AEONTS, BBL, BCP, SEAFCO, SCC, SCCC 
 
•หุ้นเด่น พ.ค. (Smart Tactics) BAM, BEM, CPALL, CPN, HMPRO, RBF, SMPC 
 

บันทึกโดย : วันที่ : 19 พ.ค. 2563 เวลา : 12:35:19

17-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 17, 2024, 4:46 am