ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังกำลังการผลิตน้ำมันดิบลิเบียเพิ่ม และยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สหรัฐฯ พุ่ง

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล  13 พ.ย. 63 เปลี่ยนแปลง                                                                  

เวสต์เท็กซัส 40.13 -0.99

เบรนท์ 42.78 -0.75  

ดูไบ 43.24 -0.84

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 13 พ.ย. 63 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 95  46.35 -1.29

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  44.65 -1.48

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 46.89 -1.03

น้ำมันเตา (3.5% S) 43.87 -0.46

- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง หลังมีรายงานในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียปรับเพิ่มสูงขึ้นไปแตะที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับตัวสูงขึ้นจากระดับ 1.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากที่บริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบียได้รายงานไว้เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 63

- ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่ถูกกดดัน หลังจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ ณ วันที่ 13 พ.ย. 63 ปรับเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุด โดยล่าสุดรัฐนิวยอร์คสั่งให้ร้านอาหาร และผับบาร์ ต้องปิดในเวลา 4 ทุ่ม เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งการใช้มาตรการดังกล่าวและยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้นได้บดบังข่าวดีเกี่ยวกับความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์อิงค์

- บริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 13 พ.ย. 63 ปรับเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 236 แท่น ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 63 และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์

 ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ การส่งออกน้ำมันเบนซินจากจีน มาเลเซีย และบรูไนปรับสูงขึ้น

 ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงอ่อนแอ ประกอบกับการส่งออกจากจีนที่เพิ่มมากขึ้น