ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +21.42 จุด อานิสงส์การเมืองสหรัฐฯ ชัดเจน, $ อ่อนค่า


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +21.42 จุด อานิสงส์การเมืองสหรัฐฯ ชัดเจน, $ อ่อนค่า

SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1502-19 ดีดกลับปิดเหนือระดับ 1500 อีกครั้ง อานิสงส์การเมืองสหรัฐฯ เป็น “Blue Wave” หลังพรรคเดโมเครตชนะการเลือกตั้งวุฒิสภารัฐจอร์เจียทั้ง 2 ที่นั่ง และเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าหนุนเงินทุนไหลเข้า ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 145 ลบ. แต่ Short S50 Futures เล็กน้อย 1,663 สัญญา 3 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ไซด์เวย์อัพ คาดหวังศก.ฟื้นตัวดี, ทรัมป์ยอมถ่ายโอนอำนาจ
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (7 ม.ค.) ขึ้นยกแผง ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดสูงใหม่เป็นประวัติการณ์ (ดัชนี NASDAQ หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ปิดเหนือระดับ 13000 จุดครั้งแรก) คาดหวังเม็ดเงินจากนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นศก.จากสหรัฐฯ มากขึ้น หลังการเมืองในสหรัฐฯ เป็น “Blue Wave” และปธน.ทรัมป์ยอมถ่ายโอนอำนาจให้ปธน.ไบเดนแล้ว หลังคณะผู้เลือกตั้งยืนยันไบเดนเป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง และจะเข้าพิธีสาบานตนใน 20 ม.ค. นี้ ผสานกับตัวเลขศก.สหรัฐฯ ดีกว่าคาด (จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรกลดลง 3,000 ราย มาที่ 787,000 ราย ดีกว่าตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 800,000 ราย, ISM บริการสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 55.9 จุดใน พ.ย. สู่ 57.2 จุดใน ธ.ค. ดีกว่าตลาดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 54.5 จุด) หนุนความเชื่อมั่นศก.ปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวแข็งแกร่ง ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นต่อเนื่อง +20 เซนต์ ปิดที่ 50.83 $/บาร์เรล อานิสงส์ต่อเนื่องจากซาอุฯ อาสาลดกำลังการผลิตลง 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้น ก.พ. นี้ และคาดหวังศก.โลกฟื้นตัวดีหนุนความต้องการใช้น้ำมันเชิงบวก มอง SET มีแนวโน้มกระโดดขึ้นผ่านระดับ 1520 และแกว่งอิงแดนบวก คาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของศก.โลกและกระแสเงินทุนไหลเข้าหุ้น EM หลังการเมืองสหรัฐฯ เกิดกรณี “Blue Wave” และเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า มองหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี และกลุ่มแบงก์จะเป็นเป้าหมายหลักของกระแสเงินทุนไหลเข้า แนวรับ 1500-1505 แนวต้าน 1530, 1540 อนึ่ง คาด KCE, IP จะติด Cash Balance เย็นนี้ / PSL และ COTTO ติด Cash Balance วันสุดท้ายถึง 8 ม.ค. และ 13 ม.ค. ตามลำดับ (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา) 

กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งกรอบ 1500-1500 ลงซื้อ-ขึ้นขาย หมุนรอบเร็วขึ้น
 
เทรดดิ้ง-เก็งกำไรระยะสั้น ยังแนะกลยุทธ์ ลงซื้อ-ขึ้นขาย ในกรอบ 1500-1550 แต่ควรหมุนรอบเร็วขึ้น ไม่หวังส่วนต่างราคามาก / พอร์ตลงทุน ถือทนแกว่ง และเริ่มเน้นขายมากกว่าซื้อเมื่อ SET เข้าใกล้บริเวณ 1550+/-  
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick PROSPECT – อัตราการเช่าพื้นที่ยังอยู่สูงถึง 95% จากความต้องการลูกค้าที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากระบาดรอบ 2, แนวโน้มรายได้จะเติบโตผ่านการลงทุนในทรัยพ์สินภายใน 2-3 ปีข้างหน้า คาดจะหนุนขนาดกองเพิ่มขึ้นเท่าตัว ช่วยเพิ่มความน่าสนใจ, ปันผลจ่ายเป็นรายไตรมาส คาด Div. Yield ปี 21F ที่ 13% และ 11% ในปี 22-23F, แนะสะสม เป้าพื้นฐาน 11.3 บ. / 5 หุ้นเด่นจากผลสำรวจ IAA – ADVANC, BDMS, CPALL, KBANK, PTTGC / หุ้นได้ประโยชน์ COVID-19 ระบาดใหม่ - STGT, STA, HANA, SIS, SYNEX, CBG, ICHI ขณะที่หุ้นท่องเที่ยว ค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ และขนส่ง ถูกกดดันจากมาตรการคุมระบาดที่เข้มงวดขึ้น / หุ้นได้ประโยชน์จากรัฐกระตุ้นการบริโภคต่อเนื่องถึง Q1 ชอบ BJC, BGC, CBG / บาทแข็งค่าเป็นผลดีต่อหุ้นนำเข้าสินค้า-วัตถุดิบตปท. หุ้นโรงไฟฟ้า รวมทั้งหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมีที่คาดจะมีกำไรจาก FX - SYNEX, TVO / GULF, EGCO BGRIM / PTT, PTTGC แต่จะเป็นลบต่อหุ้นส่งออกทั้งอิเล็กฯ-อาหาร / หุ้นน่าสะสม “เพื่อการลงทุน” แนวโน้มกำไรปีหน้าฟื้นตัวเด่น ชอบ BAM, BBL, BDMS, MTC, PTTGC, TWPC, WHA และหุ้นปันผลที่ Div. Yield > 4% ต่อปี แนะนำ DCC, EASTW, INTUCH, KKP, LH, QH, NYT, PROSPECT, RATCH, SCCC, TVO 
 
• หุ้นเด่น ม.ค. (Smart Tactics) HMPRO, INTUCH, KKP, MTC, SCC, SFLEX, TPIPL, TVO 
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 08 ม.ค. 2564 เวลา : 11:21:09

20-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 20, 2024, 10:50 pm