สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET +13.67 จุด ยอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 2 พันคน, เก็งหุ้นงบดี
SET แกว่งแดนบวกตลอดทั้งวันในกรอบ 1583-92 ภาคเช้าเปิดกระโดดขึ้นกว่า 7 จุด และไต่ขึ้นปิดเกือบสูงสุดของวัน ขานรับผลประชุม FED คงนโยบายการเงินผ่อนคลายตามเดิม และยอดผู้ติดเชื้อใหม่ในปท.ที่ลดลงต่ำกว่าหลัก 2 พันคนครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ ต่างชาติซื้อสุทธิ 806 ลบ. 4 วัน และ Long S50 Futures 20,109 สัญญา 2 วัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ขึ้นทดสอบ 1600 รับศก.US แกร่ง, น้ำมันขึ้นไฮรอบ 6 สัปดาห์
หุ้นโลกเมื่อวาน (29 เม.ย.) ปิดสวนทางกัน โดยหุ้นยุโรปปรับลง ถูกกดดันจากเงินเฟ้อเยอรมันที่พุ่งขึ้น 2.1% ใน เม.ย. ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายของ ECB และหนุน Bond Yields ปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น โดยดัชนี S&P500 ปิดระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขานรับ GDP Q1 สหรัฐฯ ขยายตัว 6.4% ดีกว่าตลาดคาดที่ 6.1% และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯ ครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 553,000 คน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่สหรัฐฯ เผชิญวิกฤติการระบาด ผสานกับ Facebook และ Apple รายงานกำไรดีกว่าคาด หนุนแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีโดยรวมด้วย ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1.15$ หรือ +1.8% ปิดที่ 65.01 $/บาร์เรล สูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯ แกร่ง และคาดหมายอุปสงค์จะฟื้นตัวต่อเนื่อง มอง SET มีแนวโน้มแกว่งซิกแซกขึ้นทดสอบระดับ 1600 จาก Sentiment หุ้นโลกและราคาน้ำมันที่เป็นบวก หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯ แข็งแกร่ง และแรงเก็งกำไรหุ้นงบดี นอกจากนี้ Fund Flows ต่างชาติและกองทุนในปท.พร้อมใจซื้อต่อเนื่องกันถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ระวังแกว่งเมื่อเข้าใกล้บริเวณ 1600 นลท.อาจขายทำกำไรก่อนช่วงหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ แนวรับ 1583-84, 1575-76 (ปิด GAP) แนวต้าน 1600-1606 อนึ่ง คาด GJS, IMH, INOX, LEO, MILL, MILL-W4, PERM, PERM-W1, SAM, TGPRO, TGPRO-W3, UPA, VIBHA-W3 จะติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : รับความเสี่ยงได้สูง แนะเทรดดิ้งสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย, เน้นตั้งรับ
การเทรดดิ้งสั้นเหมาะสำหรับผู้รับความเสี่ยงได้สูง ลงซื้อ-ขึ้นขาย หลัง SET ปิดเหนือ 1590 เล็งเป้า SET ถัดไปที่บริเวณบริเวณ 1600-1606 หรือสูงกว่า / พอร์ตลงทุน เน้นหาจังหวะอ่อนตัวทยอยสะสม-ไม่ไล่ราคา
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick SCCC – คาดกำไร 1Q21F จะออกมาดี อยู่ที่ 1.02 พันลบ. +23% YoY, +9% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น YoY และยอดขายที่เติบโต QoQ จากความต้องการในช่วงฤดูกาล โดยความต้องการดีขึ้นทั้งในปท.และตลาดภูมิภาค ขณะที่แนวโน้มความต้องการยังสดใส และเพื่อชดเชยต้นทุนถ่านหินที่สูงขึ้น เรามองมีโอกาสเห็นการปรับราคาขายขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง, การประเมินมูลค่าหุ้นถูก PER ปีนี้อยู่ที่ 14x และมี Div. Yield ที่ 5% ต่อปี, เป้าพื้นฐาน 189 บ. / หุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์จากการระบาด – STGT, STA, SYNEX, COM7, HANA, KCE ขณะที่หุ้นเสียประโยชน์ คือ หุ้นท่องเที่ยวและการบริโภคในปท. / หุ้นที่คาดงบดี – BCH, CHG, DCC, EASTW, GULF, JWD, NYT, ORI, PTG, PTT, PTTGC, ROJNA, SCC, SCCC, STEC, STGT, STA, SYNEX, TASCO, TFG, TPIPL, TU, TWPC / หุ้นเก็งเข้าดัชนี MSCI – SCGP / SET50 – เบื้องต้น IRPC, KCE, STGT, STA / หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากการคำนวณดัชนีเป็น “Free Float Adjusted Market Cap.” - BBL, SCB, KBANK, SCC, CPALL / กระแสส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า-รัฐเตรียมออกมาตรการกระตุ้น – EA, NEX, GPSC, BPP / กระแสกัญชา-กัญชง หุ้นที่มีศักยภาพสูงเริ่มต้นก่อน – DOD, RBF, STA อื่นๆ CBG, ICHI, SAPPE, RS / หุ้นน่าเลือกลงทุน คาดกำไรปีนี้ฟื้นตัวดี ชอบ AEONTS, BAM, BBL, CPALL, EASTW, JWD, RS, SCGP, SISB, STEC, TOP
• หุ้นเด่น เม.ย. (Smart Tactics) AEONTS, DCC, NYT, PTT, ROJNA, TASCO, TPIPL และ TWPC
ข่าวเด่น