ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ทิสโก้ สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -11.85 จุด ห่วง FED ขึ้นดบ.เร็วหนุนดอลล์แข็งค่าเพิ่ม


สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -11.85 จุด ห่วง FED ขึ้นดบ.เร็วหนุนดอลล์แข็งค่าเพิ่ม

SET กระโดดลงและแกว่งแดนลบตลอดทั้งวันในกรอบ 1590-1602 ตามทิศทางหุ้นตปท.และภูมิภาคที่ดิ่งลง กังวล FED อาจขึ้นดบ.เร็วกว่าคาด หนุนดัชนีค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน แต่ภาคบ่ายมีแรงซื้อคืนหนุน SET ปิดเหนือ 1600 ต่างชาติขายสุทธิ 3.24 พันลบ. 3 วันติด และ Short S50 Futures 14,748 สัญญา 4 วันติด 
 
ทิศทางตลาดวันนี้ : ฟื้นตัว อานิสงส์น้ำมันขึ้นเกือบ 3%, แรงซื้อคืนหวังรีบาวด์
 
หุ้นโลกเมื่อวาน (21 มิ.ย.) ดีดกลับแรง โดยดัชนี DJ บวกกว่า 586 จุด หรือ +1.8% จากแรงซื้อคืนหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางศก. ทั้งหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ โดยราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นเกือบ 3% ปิดที่ 73.66 $/บาร์เรล สูงสุดใหม่ในรอบกว่า 2 ปีครึ่ง จากการพลิกกลับมาอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ จากระดับแข็งค่าสุดรอบ 2 เดือน และการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านไม่คืบหน้า โดยเฉพาะภายหลังที่นายอิบราฮิม ไรซี ซึ่งมีท่าทีต่อต้านต่อการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่ไม่เป็นธรรมต่ออิหร่าน ชนะการเลือกตั้งเป็นปธน.คนใหม่ของอิหร่าน  มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวตามทิศทางหุ้นตปท.ที่รีบาวด์และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับ SET เมื่อวานมีแรงรับ มาปิดเกือบระดับสูงสุดของวัน และยังสูงกว่าระดับ 1600 ถือเป็นสัญญาณเทคนิคที่ดี วันนี้ติดตามการประชุมครม. และถ้อยแถลงของปธ.FED ต่อสภาคองเกรส หากส่งสัญญาณผ่อนคลาย คาดจะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกมีเสถียรภาพขึ้น แนวรับ 1590 แนวต้าน 1620-25, 1630-32 อนึ่ง GLOCON, GLOCON-W4 ขยายเวลาติด Cash Balance ถึง 12 ก.ค. / JWD ไม่ติด Cash Balance แล้ว กลับมาซื้อขายตามเกณฑ์ปกติวันนี้เป็นวันแรก / NCL และ DELTA, PPS จะติด Cash Balance ถึง 22 มิ.ย. และ 23 มิ.ย. ตามลำดับ (ถ้าไม่ถูกขยายเวลา)    
 
กลยุทธ์การลงทุน : เทรดดิ้งสั้นใช้กรอบ SET 1595-1650 ลงซื้อ-ขึ้นขาย
 
การเทรดดิ้งสั้นแนะใช้กรอบ SET 1595-1650 ลงซื้อ-ขึ้นขาย โดยกำหนดจุด Stop Loss รอบนี้เมื่อปิดต่ำกว่า 1595, เราชอบหุ้นใหญ่-กลางที่ราคายังปรับตัวขึ้นช้าและมีสตอรี่ Re-opening หนุน / พอร์ตลงทุน หาจังหวะทยอยสะสม 
 
• ประเด็นหุ้นน่าสนใจ Fundamental Pick JWD – เป็นหนึ่งในผู้นำการให้บริการโลจิสติสก์และซัพพลายเชนแบบครบวงจรในภูมิภาคนี้, คาดจะได้ประโยชน์จากการส่งออกและศก.โลกที่ฟื้นตัว, มีการเติบโตทั้งจากภายในและการทำ M&A จากภายนอก ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว, คาดกำไรหลักปีนี้และปีหน้าจะเติบโตสูง +27% และ +25% ตามลำดับ, เป้าพื้นฐาน 15.5 บ. / หุ้นขนาดใหญ่-กลางที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและมาตรการรัฐกระตุ้นการบริโภค แต่ราคายังฟื้นตัวช้าอยู่ - BAM, BDMS, BJC, BTS, CPALL, HMPRO, WHA / หุ้นเข้าข่าย Window Dressing - AOT, BDMS, BJC, EA, KCE, SCC, UTP / หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุนระยะสั้น หาจังหวะสะสม กลุ่มรับเหมา (คาดจะมีข่าวงานภาครัฐทยอยเปิดประมูลในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า) - CK, STEC และกลุ่มได้ประโยชน์ส่งออกขยายตัวดี ชอบ CPF, KCE, JWD, SCGP / ธุรกิจกัญชา – RBF, ICHI, SAPPE, KISS / กระแสส่งเสริมรถ EV และแบตเตอรี่ EV เป็น Sentiment บวกต่อ EA, GPSC, PTT, BANPU, BCPG, ROJNA รวมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนสำคัญในรถยนต์ SAT, STANLY / หุ้นเข้า SET50 – IRPC, KCE, STA, STGT ออก AWC, BAM, TOA, VGI หุ้นเข้า SET100 – AAV, ICHI, NRF, PSL, PTL, SINGER, STGT, SYNEX, TKN ออก AWC, BPP, EPG, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP 
 
•หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ (Stock Focus) JWD, KCE
•หุ้นเด่น มิ.ย. (Smart Tactics) BAM, BTS, CPALL, CPN, ROJNA, SPALI, STGT, TPIPL ?
 

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 มิ.ย. 2564 เวลา : 10:17:50

24-04-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ April 24, 2024, 10:49 am