ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 7 ม.ค. ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในคาซัคสถานและปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียลด

+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น หลังสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในคาซัคสถานเริ่มทวีความรุนแรง โดยรัสเซียได้ส่งทหารพลร่มเข้าไปยังคาซัคสถานเพื่อรักษาความสงบ หลังจากเกิดความรุนแรงทั่วประเทศจากการที่ประชาชนประท้วงน้ำมันแพง จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศลาออก ซึ่งอาจกระทบปริมาณน้ำมันดิบโลก โดยปัจจุบันคาซัคสถานผลิตน้ำมันได้ในปริมาณ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียอยู่ที่ 729,000 บาร์เรลต่อวัน ลดลงจากระดับสูงสุดที่มากกว่า 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีที่แล้ว เนื่องมาจากการปิดซ่อมบำรุงและการปิดบ่อน้ำมันหลายแห่ง

+ กลุ่มโอเปกพลัสยึดมั่นในข้อตกลงเดิมที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนก.พ. แม้ว่าสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่างกดดันให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น โดยตลาดยังจับตาการประชุมครั้งต่อไปของกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ. โดยที่ประชุมจะพิจารณานโยบายการผลิตสำหรับเดือนมี.ค.

ราคาน้ำมันดิบ

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง                                                                   

เวสต์เท็กซัส 79.46 +1.61

เบรนท์ 81.99 +1.19

ดูไบ 78.92 +0.37

ราคาน้ำมันสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์

เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล 6 ม.ค.65 เปลี่ยนแปลง

เบนซินออกเทน 93.57 +0.22

น้ำมันก๊าดและอากาศยาน  89.51 +0.71

ดีเซลหมุนเร็ว (0.05% S) 92.11 +0.47                                                                

น้ำมันเตา (3.5% S) 71.28 +0.26

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานจากจีนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น และปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังจีนประกาศปรับลดโควต้าการส่งออกลง อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังอยู่ในระดับสูงจากไต้หวัน จีน และเกาหลีใต้