(137).jpg)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (8 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,112.27 จุด ลดลง 40.33 จุด หรือ -0.12%,ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,382.78 จุด เพิ่มขึ้น 4.40 จุด หรือ +0.10% และ
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,650.41 จุด เพิ่มขึ้น 10.56 จุด หรือ +0.08%
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 4.6% เมื่อคืนนี้ เป็นปัจจัยหนุนดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 และ 9 ตามลำดับ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดได้ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักประมาณ 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 41% ในสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนางมิเชล โบว์แมน หนึ่งในสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า การที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 ของสหรัฐขยายตัวถึง 4.9% ไม่เพียงแต่เป็นหลักฐานยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจอาจจะขยายตัวเร็วขึ้นและทำให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
ด้าน นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแผนกสถิติและวิจัยของเฟดเมื่อคืนนี้ โดยนายพาวเวลไม่ได้ระบุถึงนโยบายการเงินของเฟดหรือแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐในการประชุมดังกล่าว
ส่วนในวันนี้ (9 พ.ย.) นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนา 24th Jacques Polak Annual Research Conference ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในเวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. เวลา 02.00 น.ตามเวลาไทย ในหัวข้อ “Monetary policy challenges in a global economy” หรือ “ความท้าทายของนโยบายการเงินในเศรษฐกิจโลก” ซึ่งในช่วงท้ายของงานเสวนาจะเป็นช่วงถาม-ตอบ โดยนายพาวเวลจะตอบคำถามเกี่ยวกับนโยบายการเงินของเฟดจากผู้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ข่าวเด่น