ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดเมื่อคืน (21 ธ.ค.66) พุ่ง 322.35 จุด แรงหนุนหุ้นเทคฯดันดัชนี


 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (21 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 322.35 จุด หรือ 0.87% ปิดที่ 37,404.35 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 48.4 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 4,746.75 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 185.92 จุดหรือ 1.26% ปิดที่ 14,963.87 จุด โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นไมครอน (Micron Technology) หลังบริษัทเผยคาดการณ์รายได้รายไตรมาสดีกว่าที่คาดการณ์ โดยบริษัทไมครอน เผยผลประกอบการรายไตรมาสที่สูงเกินคาด และเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ปี 2566 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยหุ้นไมครอน พุ่งขึ้น 8.6%

ด้านหุ้นของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ เช่น เทสลา (Tesla) ลูซิด (Lucid Group) และ ริเวียน (Rivian Automotive) ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้นระหว่าง 1.6% ถึง 3.0% หลังรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของจีน ขณะที่หุ้น Triumph Group ปิดเพิ่มขึ้น 32.9% หลังจากที่ซัพพลายเออร์ด้านการบินและอวกาศกล่าวว่า จะขายธุรกิจหลังการขายส่วนประกอบให้กับ AAR Corp ในราคา 725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 205,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 215,000 ราย

ด้านนักวิเคราะห์จาก AXS Investments มองว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวหลังถูกเทขายอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันและจากการทำ Put Options เพื่อป้องกันความเสี่ยง พร้อมคาดการณ์ว่านักลงทุนจะเริ่มเข้ามาช้อนซื้อหุ้น

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Chase Investment Counsel กล่าวว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ปรับเพิ่มประมาณการตัวเลข GDP ในไตรมาส 3 แต่เป็นการปรับลดลงจากที่ประมาณการไว้ในครั้งที่ 2 ทำให้นักลงทุนมั่นใจว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจ จะทำให้เฟดยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเริ่มดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ตลาดยังจับตารายงานค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ที่มีกำหนดรายงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะครอบคลุมการเติบโตของรายได้ การใช้จ่ายของผู้บริโภค และอัตราเงินเฟ้อ

บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ธ.ค. 2566 เวลา : 11:31:03

03-05-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 3, 2024, 1:17 pm