Scoop : จีนตั้งเป้าเป็น "มหาอำนาจการบริโภค" ดันการใช้จ่ายทะลุ 1.1 ล้านล้านหยวน - ส่งพัสดุทะลุ 1 แสนล้านชิ้น


 

ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้จีนเจอวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาอย่างยาวนาน ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชาวจีนนั้นหดตัวลงไปมาก และปัญหาดังกล่าวก็ได้ส่งผลกระทบต่อไปยังภาคการลงทุนที่ซบเซา ลุกลามจนเป็นภาพของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลงจวบจนปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น จากปัญหาการค้ากับสหรัฐก่อนหน้านี้ในเรื่องของการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ก็ได้ตอกย้ำถึงความเปราะบางในการคานอำนาจกันไปมากับสหรัฐที่อาจสั่นคลอนเศรษฐกิจของจีนได้อยู่เสมอ ฉะนั้นจีนจึงมีหมุดหมายที่จะสร้างฐานของผู้กำหนดระเบียบโลกใหม่ที่มั่นคงมากขึ้น และหนึ่งในแผนสำคัญที่กำลังดำเนินการคือ “การเป็นประเทศมหาอำนาจด้านการบริโภคของโลก”
 
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจากที่สหรัฐอเมริกาหรือผู้นำอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างอุปสรรคทางการค้าขึ้นมาในตอนนี้ ทำให้จีนพยายามที่จะช่วงชิงเก้าอี้ผู้นำในการสร้างระเบียบโลกใหม่ ในฐานะ “ผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก” แทนที่สหรัฐ ที่เห็นแล้วว่าการดำรงในฐานะดังกล่าว เท่ากับว่าสามารถกุมอำนาจทางเศรษฐกิจ ใช้อำนาจนั้นในการต่อรอง และกำหนดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลกแบบที่ประเทศอื่นต้องยอมสยบ ซึ่งจีนไม่สามารถยอมรับได้
 
สหรัฐกับจีนนั้น ถือว่าเป็นสองประเทศมหาอำนาจจากคนละขั้วของโลก ที่เปรียบเสมือนเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ เราจึงเห็นการกระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ประเทศฝั่งตรงข้ามช่วงชิงเก้าอี้ไปได้สำเร็จ ซึ่งจะเห็นได้ว่า หลังจากที่จีนกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตของโลกเป็นที่เรียบร้อย สหรัฐก็มีความหวั่นเกรงถึงการมาของจีน จึงมีการใช้มาตรการทุกวิถีทางเพื่อกดอำนาจของจีนให้ต่ำลงไป เช่น มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ก็มีเป้าหมายที่จะกีดกันสินค้าจีนเป็นหลัก และทวงตำแหน่งการเป็นประเทศอุตสาหกรรมของโลกอีกครั้งให้ได้ ด้วยการใช้ประโยชน์ในฐานะที่สหรัฐเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของโลก อันมีอำนาจต่อรองทางการค้าอย่างที่เห็นกันนั่นเอง
 
โดยแม้จีน จะเป็นตลาดที่ใหญ่เช่นกัน แต่การบริโภคต่อหัวยังต่ำกว่าสหรัฐมาก สังเกตได้จากเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขับเคลื่อนจากการบริโภคเป็นหลัก ขณะที่เศรษฐกิจจีนพึ่งพาการลงทุนภาครัฐและการส่งออกมากกว่า “การบริโภคภายในประเทศ” ทำให้จีนเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่อันดับ 2 ของโลก เป็นรองจากสหรัฐทั้งในสัดส่วนต่อ GDP และต่อหัว แต่นับจากนี้ ทางรัฐบาลจีนกำลังผลักดันให้ประเทศเป็นมหาอำนาจด้านการบริโภคของโลก จึงมีการคิดโครงการขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้คนจีนมีการบริโภคสินค้ามากยิ่งขึ้น โดยโครงการที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้ ได้แก่ “โครงการเก่าแลกใหม่” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นการกระตุ้นอุปสงค์และฟื้นฟูการจับจ่ายใช้สอยของคนในชาติ
 
โดยวิธีการของโครงการดังกล่าว จะเปิดให้ประชาชนนำของเก่า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ หรือสินค้าอื่น ๆ ที่ต้องการจะเปลี่ยน มาแลกซื้อสินค้าใหม่ที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้ร้านค้าประเมินราคาและหาส่วนต่างที่จะต้องจ่ายเพิ่ม ซึ่งจะทำให้ได้สินค้าใหม่ในราคาที่ถูกลง อีกทั้งยังได้เงินอุดหนุนจากรัฐบาลในการจ่ายส่วนต่างอีกด้วย ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ของจีน เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. - พ.ค. 2568 ส่งผลให้มียอดจำหน่ายสินค้ารวมกันกว่า 1.1 ล้านล้านหยวน หรือราว 5 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว แบ่งออกเป็นยานพาหนะ 4 ล้านคัน เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน 77 ล้านเครื่อง ผลิตภัณฑ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน) 56 ล้านเครื่อง โดยยอดสินค้าปลีกอุปโภคบริโภคดังกล่าวช่วงเดือน ม.ค. - เม.ย. 2568 เติบโตถึง 4.7% จากปีที่แล้ว ส่วนยอดขายในเดือน พ.ค. 2568 ก็หนุนให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไอทีเติบโตขึ้น 50% ส่งผลให้ยอดค้าปลีกจีนพุ่งขึ้นมา 6.4% นับเป็นระดับสูงที่สุดในรอบ 2 ปี
 
นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจขนส่งพัสดุของจีน ที่ทางการไปรษณีย์สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยว่า สามารถจัดส่งพัสดุสินค้าได้มากกว่า 1 แสนล้านชิ้นแล้วในปี 2568 ทำสถิติเร็วกว่าปีที่แล้ว 35 วัน และเป็นจำนวนการขนส่งที่จีนทำได้ 5 ปีติดต่อกัน สะท้อนถึงธุรกิจ E-Commerce ของจีนที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็เป็นผลมาจากการอุดหนุนของทางการจีนเช่นกันที่ต้องการกระตุ้นการบริโภคให้มากขึ้น และเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมานี้ ทางการจีนก็ยังให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนโครงการกระตุ้นการบริโภคต่าง ๆ ต่อไป ผ่านการออกมาตรการใหม่ ๆ รวมถึงจะจัดสรรเงินสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2568
 
จะเห็นได้ว่าจีนกำลังเอาจริงที่จะก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจการบริโภคของโลกแทนที่สหรัฐ ซึ่งด้วยการเติบโตของประชากรที่มีจำนวนมากกว่าสหรัฐ และยังคงครองอำนาจในฐานะผู้ผลิตของโลก ซึ่งเป็นต้นทุนที่ดีกว่าอยู่แล้ว หากรัฐบาลมีการสนับสนุนการบริโภคด้วยกำลังซื้อของคนในประเทศที่เพิ่มมากขึ้น ก็อาจผลักดันให้วันใดวันหนึ่ง จีนจะกลายเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดระเบียบทางการค้าคนใหม่ของโลกได้ไม่ยาก

LastUpdate 13/07/2568 16:42:38 โดย : Admin
กลับหน้าข่าวเด่น
15-07-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ July 15, 2025, 9:20 am