Special Report : ประธาน Fed มองตลาดแรงงานสหรัฐ "สมดุลผิดปกติ" ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย ก.ย. 68 นี้


 

ภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ณ งานประชุมนโยบายเศรษฐกิจที่เมืองแจ็กสันโฮล รัฐไวโอมิง ได้ทำเอาตลาดสินทรัพย์พุ่งสูงขึ้นยกแผง เนื่องจากท่าทีที่เปิดกว้างถึงความเป็นไปได้ในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปของ Fed ที่พิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในตลาดแรงงานที่ชี้ว่ามีความสมดุล “ผิดปกติ”
 
การประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ที่ทางด้านของพาวเวลล์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายในฐานะของประธาน Fed ด้วยการส่งสัญญาณอย่างเปิดกว้างที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบการประชุม 16-17 ก.ย. ที่จะถึงนี้ แม้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐจะยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในปัจจุบันก็ตาม แต่หากพูดถึงความสมดุลในตลาดแรงงานนั้น ถือว่ามีความสมดุลอย่างผิดปกติ กล่าวคือ ทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานของตลาดแรงงานเกิดการชะลอตัวพร้อมกัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ทั้งในด้านของการจัดการผู้อพยพนโยบายการค้า และภาษี ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของอัตราการว่างงานที่อาจเพิ่มขึ้นในอนาคตได้
 
และแม้ว่าความกังวลของเรื่องเงินเฟ้อยังคงอยู่ ที่ผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากร ที่จะดันราคาสินค้านำเข้าพุ่งสูงขึ้น แต่ก็เป็นไปในลักษณะที่เปลี่ยนแปลงสูงขึ้นเพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นความเสี่ยงระยะสั้น ที่เบื้องต้นไม่ได้นำไปสู่การพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหมือนในอดีต ดังนั้นจากภารกิจหลักของ Fed ที่มุ่งดำเนินนโยบายทางการเงินเพื่อลดสภาวะเงินเฟ้อ ได้มาถึงจุดเปลี่ยนของกรอบการดำเนินการ โดยมุ่งกำกับดูแลเสถียรภาพของอัตราการว่างงานและมาตรการอื่นๆ ของตลาดแรงงาน ให้แน่ใจว่าจะเกิดความสมดุลระหว่างจ้างงานเต็มศักยภาพ และเสถียรภาพของสภาวะเงินเฟ้อ
 
โดยการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed จึงถือได้ว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงมาเกินไป โดยมีส่วนที่จะเข้าไปฟื้นฟูความผิดปกติในตลาดแรงงาน และผ่อนคลายความกดดันจากมาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ ซึ่งถ้อยแถลงที่ส่งสัญญาณอย่างชัดเจนถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินของพาวเวลล์ในครั้งนี้ ทำให้นักลงทุนในตลาดส่วนใหญ่กว่า 90% ตามการรายงานจาก FedWatch ของ CME Group มองว่า Fed จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. สู่ระดับ 4.00 - 4.25%
 
ส่วนของผลกระทบในตลาดสินทรัพย์ เมื่อเกิดความเป็นไปได้อย่างชัดเจนว่า Fed จะมีการลดดอกเบี้ยลง ตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย อย่าง ทองคำ ไปจนถึงสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและคริปโตก็มีมูลค่าพุ่งขึ้นสูงขึ้นทันที หลังการประชุมดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 และดัชนี S&P 500 ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 วัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2568
 
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยจะยังคงขึ้นอยู่กับข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อที่จะประกาศก่อนถึงการประชุมเดือน ก.ย. โดยเฉพาะรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ และรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่มีกำหนดเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรที่เริ่มปรากฏให้เห็นก็ต้องมีการนำมาพิจารณาร่วมก่อนดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างเป็นทางการในวาระถัดไป

LastUpdate 27/08/2568 22:13:02 โดย : Admin
กลับหน้าข่าวเด่น
03-09-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ September 3, 2025, 2:30 am