แบงก์-นอนแบงก์
เมืองไทยประกันภัยเปิดแผนบุกตลาดทุกช่องทาง ดีไซน์แพ็กเกจสินค้าเลือกซื้อง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่


เมืองไทยประกันภัยเร่งเครื่องบุกตลาดทุกช่องทาง ดีไซน์แพ็คเกจสินค้าใหม่ เน้นขายง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ โกยเบี้ยครึ่งปีหลังโตพรวด หลังครึ่งปีแรกออกตัวแรง กวาดกำไร 452 ล้านทุบสถิติตั้งบริษัท




 
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เมืองไทยประกันภัย เปิดเผยว่า ทิศทางการรุกตลาดครึ่งปีหลังจะยังคงรักษาโมเมนตัมการเติบโตให้เหนียวแน่น โดยเน้นการรุกตลาดผ่านทุกช่องทาง ทั้งตัวแทนที่มีแผนจะเพิ่มจำนวนตัวแทนรายย่อยและสำนักงานตัวแทน ช่องทางสาขาที่จะเพิ่มจาก 17 แห่งให้เป็น 20 แห่ง แบงก์แอสชัวรันซ์ที่ร่วมกับธนาคารหลายแแห่ง และพันธมิตรด้านสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งจะยังเป็นช่องทางหลักในการขยายตลาดลูกค้ารายย่อย ที่เป็นสัดส่วนงานหลักถึง 80%

ในตลาดรายย่อยนั้น บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ด้านสินค้าที่มุ่งให้ตอบโจทย์ความต้องการไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ที่เน้นสินค้าซื้อง่าย เข้าใจง่าย โดยเน้นจัดเป็นแพ็คเกจให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ง่าย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย และประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (พีเอ) ซึ่งสามารถนำแพ็คเกจสินค้าเหล่านี้เข้าไปเสริมให้ตัวแทน สาขา ธนาคาร และพันธมิตรช่วยต่อยอดการขายได้เพิ่มขึ้น

ขณะที่ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันซ์ก็จะเริ่มรุกเข้าไปทำตลาดลูกค้าธุรกิจเพิ่มขึ้น ต่อยอดจากฐานลูกค้าเดิมของธนาคาร ซึ่งจะมาเสริมยอดขายจากทีมขายตรงที่จะเน้นจับตลาดลูกค้าธุรกิจรายใหญ่เช่นกัน โดยจุดขายจะเน้นทีมงานที่เชี่ยวชาญในการวางป้องกันความเสี่ยงภัยต่างๆ ได้อย่างรอบด้านให้แก่ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นประกันภัยสำหรับผู้บริหาร ประกันความเสี่ยงภัยทางการค้า ประกันภัยความรับผิดต่อบุคคลภายนอก เป็นต้น

"เราพยายามสร้างสมดุลพอร์ตรับประกันภัย เนื่องจากที่ผ่านมาประกันภัยรถยนต์เติบโตขึ้นมาก มีสัดส่วนรวมประมาณ 47% ของเบี้ยรับรวม และน็อนมอเตอร์ 53% ซึ่งในครึ่งปีหลังก็จะเน้นขยายตลาดน็อนมอเตอร์มากขึ้นเพื่อให้ขึ้นมาเป็น 55%"

นางนวลพรรณกล่าวอีกว่า ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวเชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังบริษัทจะยังสามารถสร้างเบี้ยได้อีกไม่น้อยกว่า 4,700 ล้านบาท ซึ่งจะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตให้ต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่สร้างเบี้ยได้ถึง 4,130 ล้านบาท เติบโต 14% และมีกำไรสุทธิถึง 452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 177.7% จากปีที่แล้วที่บริษัทมีผลขาดทุนอันเกิดจากสินไหมน้ำท่วม โดยกำไรสุทธิดังกล่าวถือเป็นระดับสูงสุดที่บริษัทสามารถทำได้ในงวดครึ่งปี

เธอกล่าวอีกว่า โดยปกติแล้วครึ่งปีหลังจะมีเบี้ยเข้ามามากกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งปีนี้ก็น่าจะยังอยู่ในเทรนด์เดียวกัน โดยปัจจัยผลักดันที่สำคัญจะมาจากแนวโน้มโครงการลงทุนต่างๆ ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะเริ่มเห็นผลและทยอยเดินหน้าก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง ทำให้โอกาสขยายงานและรับรู้รายได้ในงานโครงการก่อสร้างต่างๆ เริ่มมีมากขึ้น ขณะที่แรงส่งจากตลาดประกันภัยรถยนต์ช่วงครึ่งปีหลังอาจเบาลงหลังจบโครงการรถคันแรก แต่บริษัทก็สามารถขยายตลาดรถต่ออายุได้เช่นกัน

ฝั่งการลงทุนนั้น บริษัทยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนเช่นเดิม แบ่งเป็นการลงทุนในตราสารทุน 25% ตราสารหนี้ทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชน 49% ที่เหลือเป็นเงินฝากและการลงทุนอื่นๆ อีก 26% โดยการลงทุนในหุ้นน่าจะมีทั้งขายออกเพื่อทำไรและซื้อกลับเข้ามาเพิ่มเป็นระยะตามจังหวะของตลาด ซึ่งจะรักษาสัดส่วนที่ 25% เอาไว้ นโยบายการลงทุุนยังเน้นหุ้นกลุ่มพื้นฐานดีและมีเงินปันผลเป็นหลัก เช่น กลุ่มธนาคาร สถาบันการเงิน พลังงาน ค้าปลีก และขนส่ง

LastUpdate 14/08/2556 10:04:05 โดย : Admin
09-05-2025
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ May 9, 2025, 9:31 am